เมื่อไม่ทันละหมาดในเวลา ต้องกอดอ (ชดใช้) เป็นประจำจะมีโทษไหม
ละหมาดไม่ทันเวลา ทำไงดี?
คำถาม: หนูทำงานและต้องนั่งรถนานมากเวลากลับบ้านจนไม่ทันละหมาดมักริบในเวลา ต้องกอดอ (ชดใช้) เป็นประจำจะมีโทษไหมคะ?
โดย: อ.อาลี เสือสมิง
การละหมาดฟัรฎู 5 เวลานั้นมีกำหนดเวลาที่แน่นอนจำเป็นต้องปฏิบัติให้ลุล่วงภายในกำหนดเวลานั้น ในกรณีลืมหรือนอนหลับจนเลยเวลา ก็ให้ปฏิบัติละหมาดนั้นเมื่อนึกขึ้นได้หรือตื่นนอน การละทิ้งละหมาดฟัรฎูหรือเจตนาทำให้เวลาละหมาดล่วงเลยจนออกนอกเวลาที่ศาสนากำหนดไว้โดยไม่มีเหตุสุดวิสัยถือเป็นบาปใหญ่ ตามทัศนะของญุมฮุ๊ร (ปวงปราชญ์) ระบุว่า ...
ผู้ที่เจตนาละทิ้งละหมาดฟัรฏูย่อมมีโทษ (บาป) และการกอฎอ (ชดใช้) ละหมาดก็ถือเป็นสิ่งจำเป็นเหนือบุคคลผู้นั้นในขณะที่นักวิชาการบางส่วนระบุว่า ผู้ที่ละทิ้งการละหมาดโดยเจตนา ก็ไม่มีบัญญัติให้เขากอฎอ (ชดใช้) ละหมาดนั้นและถือว่า การกอฎอ (ชดใช้) นั้นใช้ไม่ได้ (ดูรายละเอียดในฟิกฮุซซุนนะฮฺ ; อัซซัยยิด ซาบิก เล่มที่ 1 หน้า 297-300)
ดังนั้น ในกรณีนี้ที่ถามและให้ข้อมูลมาว่า ทำงานและต้องนั่งรถนานมากในเวลากลับบ้านจนไม่ทันละหมาดมัฆริบในเวลาที่ศาสนากำหนดเอาไว้ ก็ขอตอบว่า วาญิบ (จำเป็น) ที่ต้องกอฎอ (ชดใช้) การละหมาดมัฆริบดังกล่าวส่วนที่ว่าจะมีโทษหรือไม่? ขึ้นอยู่กับเจตนาว่าเจตนาละทิ้งหรือไม่? ถ้าเจตนาก็ถือเป็นบาปใหญ่ และว่าญิบต้องกอฎอ (ชดใช้) ตามทัศนะปวงปราชญ์ แต่ถ้าไม่เจตนาเพราะมีอุปสรรคในการเดินทางที่ต้องนั่งรถอย่างยาวนานต่อเนื่อง จะละหมาดในรถก็ไม่ได้เพราะเป็นรถเมล์มิใช่รถทัวร์หรือรถไฟ ก็ให้ปฏิบัติตามนี้ครับ
1. ต้องตั้งเจตนาว่าจะละหมาดมัฆริบให้ทันในเวลาที่ศาสนากำหนด มิใช่ปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไปเฉย ๆ
2. ในกรณีที่รู้แน่ชัดว่าไม่สามารถละหมาดมัฆริบได้ในเวลาที่ศาสนากำหนด ก็ให้ตั้งเจตนาว่าจะละหมาดรวม (ละหมาดญัมอ์) ระหว่างเวลามัฆริบกับเวลาอิชาอฺโดยให้ตั้งใจว่าจะรวมมัฆริบไปปฏิบัติในเวลาอิชาอฺเมื่อถึงบ้าน เรียกว่า ญัมอฺตะอฺคีรฺ คือเอาเวลาแรก (มัฆริบ) ไปรวมกับเวลาหลัง (อิชาอฺ)
3. ในวันที่สามารถจะละหมาดมัฆริบตามเวลาที่กำหนดก็ให้ปฏิบัติตามปกติในเวลา มิใช่มีเจตนาและปฏิบัติละหมาดแบบรวม ในกรณีที่สามารถลงจากรถและหาที่ละหมาดมัฆริบได้ก็ควรกระทำ เรียกว่าให้พยายามรักษาการละหมาดตามเวลาเท่าที่สามารถจะกระทำได้ ส่วนกรณีการละหมาดรวมที่กล่าวมาในข้อที่ 2 นั้นเป็นการปฏิบัติตามข้ออนุโลมที่มีนักวิชาการระบุเอาไว้
เช่น นักวิชาการในมัซฮับฮัมบะลีย์ ซึ่งท่านอิบนุตัยมียะฮฺ (ร.ฮ.) ได้กล่าวว่า : มัซฮับที่เปิดกว้างที่สุดในเรื่องการละหมาดรวมนั้นคือมัซฮับอิหม่ามอะฮฺหมัด (ร.ฮ.) ซึ่งท่านอนุญาตให้ละหมาดรวมได้เมื่อมีกรณียุ่งยาก ดังที่อันนะซาอีย์ได้รายงานสิ่งดังกล่าวถึงท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ว่า :
อนุญาตให้ละหมาดรวมได้เช่นกันสำหรับคนทำครัว (พ่อครัว) คนทำขนมปัง และเหมือนกับบุคคลทั้งสองจากบุคคลที่เกรงว่าจะเกิดความเสียหายในทรัพย์สินของตน และท่านอิหม่ามอันนะวาวีย์ (ร.ฮ.) ได้กล่าวไว้ใน “ชัรฮุ้มุสลิม” ว่า : กลุ่มหนึ่งจากบรรดาอิหม่ามมีความเห็นว่า อนุญาตให้ละหมาดรวมได้ในกรณีที่มิได้เดินทางไกล เนื่องจากมีความจำเป็นสำหรับบุคคลที่ยึดเอาเป็นเรื่องปกติ ซึ่งเป็นคำกล่าวของท่านอิบนุซีรีน, ท่านอัชฮับจากสานุศิษย์ของอิหม่ามมาลิก (ร.ฮ.) และอัลคอฏฏอบีย์ได้เล่าเอาไว้จากอัลก็อฟฟ้าล, อัชชาชีย์ อัลกะบีร จากบรรดานักวิชาการสังกัดมัซฮับอัชชาฟิอีย์ และจากนักวิชาการสายหะดีษกลุ่มหนึ่ง ซึ่งท่านอิบนุอัลมุนซิรเลือกเอาไว้ (ฟิกฮุซซุนนะฮฺ ; อัซซัยยิด ซาบิก เล่มที่ 1 หน้า 315-316)
สรุปก็คือให้ปฏิบัติตามข้อเสนอที่กล่าวมาข้างต้น โดยให้ละหมาดรวมระหว่างมัฆริบกับอิชาอฺเมื่อกลับถึงบ้าน ดังรายละเอียดที่กล่าวมาแล้ว
ที่มา: alisuasaming.org