มุสลิมเล่นสาดน้ำวันสงกรานต์ ถึงเล่นๆก็ห้าม

มุสลิมบางท่าน เมื่อคนต่างศาสนิกได้จัดงานเทศกาลต่างๆ ตามความเชื่อประเพณี หรือศาสนาของเขา ก็เข้าไปร่วมสนุกสนานกับเขาด้วย

มุสลิมบางท่าน เมื่อคนต่างศาสนิกได้จัดงานเทศกาลต่างๆ ตามความเชื่อประเพณี หรือศาสนาของเขา ก็เข้าไปร่วมสนุกสนานกับเขาด้วย
โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ ที่เป็นพิธีกรรมของคนต่างศาสนิก เป็นการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งตรงกับวันที่ 13-15 เมษายน ของทุกปี สัญลักษณ์เป็นองค์ประกอบหลักในพิธี ได้แก่ การใช้น้ำเป็นตัวแทน แก้กันกับความหมายของฤดูร้อน ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์เคลื่อนเข้าสู่ราศีเมษ ใช้น้ำรดให้แก่กันเพื่อความชุ่มชื่น มีการขอพรจากผู้ใหญ่ เป็นวันทำบุญใหญ่ประจำปี มีการรำลึกและกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับ
ความเชื่อแต่ละวันของวันมหาสงกรานต์
 

ถ้าปีใดวันมหาสงกรานต์เป็นวันอาทิตย์ ปีนั้นไร่นาเรือกสวน เผือกมัน มิสู้แพงแล วันจันทร์เป็นวันมหาสงกรานต์ จะแพ้เสนาบดี ท้าวพระยาและนางพระยาทั้งหลาย
 

วันอังคารและวันเสาร์ เป็นวันมหาสงกรานต์  จะเกิดอันตรายกลางเมือง จะเกิดเพลิงและโจรผู้ร้าย และจะเจ็บ ไข้นักแล วันพุธ เป็นวันมหาสงกรานต์ ว่าท้าวพระยาจะได้เครื่องบรรณาการมาแต่ต่างเมือง แต่จะแพ้ลูกอ่อนนักแล
 

วันพฤหัสบดีเป็นวันมหาสงกรานต์ จะแพ้ข้าไท พระสงฆ์ราชาคณะจะได้รับความเดือดเนื้อร้อนใจกันแล
 

วันศุกร์เป็นวันมหาสงกรานต์ ข้าวน้ำ ลูกหมากรากไม้ทั้งหลายจะอุดม แต่จะแพ้เด็ก ฝนและพายุชุม จะเจ็บตากันมากนักแล ความเชื่อเหล่านี้ ถือเอาวันเวลาเป็นบุญคุณโทษ เป็นการเชื่อโชคลางอันเป็นชิริก ที่ต้องห้ามตามบทบัญญัติอิสลาม
เมื่อถึงวันที่คนต่างศาสนิกจัดรื่นเริ่งเทศกาลสงกรานต์อันเป็นสิทธิของเขา มุสลิมบางคนก็ซื้อปืนฉีดน้ำให้ลูกๆ เล่นฉีดสาดกัน ไม่ว่าจะเล่นกันในบ้าน หรือนอกบ้าน หรือนำครอบครัวไปบริเวณที่คนต่างศาสนิกกำลังเล่นเทศกาลสงกรานต์กัน แล้วปลอ่ยให้ผู้เล่นสงกรานต์สาดน้ำทาแป้งให้ ทั้งที่วันอื่นๆ ไม่เคยกระทำเช่นนี้
แล้วพวกเขากล่าวว่า ลูกๆมันอยากเล่น ไม่อยากฝืนใจลูก ให้ลูกๆได้สนุกสนาน ไปเล่นน้ำกับเขาก็เพื่อความสนุกสนาน ไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้เชื่อตามที่เขาเชื่อเลย นี่คือคำตอบของพวกเขา ที่ออกมาจากความใคร่ใฝ่ต่ำของตน
ถ้าอย่างนั้น หากพวกเขาเอาธูปเทียนไปไหว้พระสงค์ หรือรูปปั้นที่คนต่างสานิกเขามีความเชื่อนับถือ เขาก็บอกว่า แค่เอาธูปเทียนไปไหว้เท่านั้น ไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้เชื่อตามคนต่างสาสนิกเขาเชื่อกันเลย จะทำได้ไหม? คำตอบก็คือ มันไม่ได้ พิธีกรรมของใครของมัน ของเขาก็ทำไป เราไม่ยุ่งเกี่ยว ถึงแม้จะทำไปโดยไม่มีความเชื่อตามคนต่างศานิกก็ตาม
การสาดเล่นกันของมุสลิมในวันสงกรานต์ของคนต่างศาสนิกก็เฉกเช่นเดียวกัน จะอ้างเหตุว่า เป็นเพียงสาดน้ำกันเล่นๆ ไม่ได้มีความเชื่อใดๆ ก็ไม่ได้เช่นเดียวกัน
ทั้งเป้าหมายและแนวทางต้องถูกต้องตามบทบัญญัติศาสนา จะขาดอย่างหนึ่งไม่ได้ หากเป้าหมายของเรา ก็เพื่อคลายความร้อน แนวทางที่ถูกต้อง ต้องไม่ไปเลียนแบบ คัดลอกการปฏิบัติ หรือนำความเชื่อของต่างศาสนิกมาปฏิบัติ เฉกเช่นเราต้องการหาเงินเข้ามัสยิดนี้คือเป้าหมาย แต่เรากลับจัดคอนเสิร์ตซึ่งเป็นเงินที่หะรอมเข้ามัสยิดอันเป็นแนวทางที่ไม่ถูกต้อง ถือเป็นที่ต้องห้าม
ดังนั้น มุสลิมต้องมีจุดยืนของตนเอง พฤติกรรมของมุสลิมต้องแตกต่างจากคนต่างศานิก ต้องไม่นำสิ่งอื่นที่ไม่ใช้อิสลามมาปฏิบัติ แนวทางการดำเนินชีวิตของมุสลิม อิสลามได้วางแนวทางไว้ครบถ้วนแล้ว การงานใดที่ไม่ปรากฏในคำสอนอิสลาม การงานนั้นถูกปฏิเสธ และถือเป็นการงานที่หลงผิด และการงานที่หลงผิดนั้น ถือเป็นโทษมหันต์จากพระองค์อัลลอฮฺตะอาลา

ที่มา:  truth islam
https://islamhouse.muslimthaipost.com