สิ่งที่น่ารังเกียจในการละหมาดมีหลายอย่างแต่ก็ไม่ได้ทำให้ละหมาดนั้นเสีย และมีดังต่อไปนี้...
สิ่งที่น่ารังเกียจ (มักโระห์) คือ สิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่น่ายกย่อง น่าเกียจไม่เหมาะสม สิ่งที่คนละทิ้งจะได้ผลบุญ คนที่ทำก็ไม่ถูกลงโทษ สิ่งที่น่ารังเกียจในการละหมาดมีหลายอย่างแต่ก็ไม่ได้ทำให้ละหมาดนั้นเสีย และมีดังต่อไปนี้
1.จับเสื้อผ้า หรือร่างกายของเขา
จับเสื้อผ้า หรือร่างกายของเขายกเว้นเมื่อมีความจำเป็น ถ้าไม่เช่นนั้นถือว่า มัคโร๊ะ( สิ่งที่น่าเกลียด) รายงานจาก มุอัยกิบ ว่า ฉันได้ถามท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัม ถึงการลูบก้อนหินเล็กๆในขณะละหมาด ท่านได้กล่าวว่า
ความว่า : “ท่านจงอย่าลูบก้อนหิน ขณะที่ท่านละหมาด ถ้าหากว่าจำเป็นต้องทำก็ให้ทำเพียงครั้งเดียวเป็นการปรับให้มันเสมอ” ( บันทึกโดย : อบูดาวูด )
รายงานจาก อบีษัรรินว่า ท่านนบีมูฮัมหมัด ศอลลัลลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
ความว่า : “เมื่อคนใดในหมู่พวกเจ้ายืนละหมาด แท้จริงเราะฮมัด( ความเมตตาของอัลลอฮ ) ก็จะประสบแก่เขาดังนั้นเขาจงอย่าลูบหินอยู่ ”) บันทึกโดย : อบูดาวูด )
2.ท้าวสะเอวในขณะละหมาด
รายงานจาก อบีหุร็อยเราะฮ ว่า ท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
** ความว่า : “ ห้ามมิให้ท้าวสะเอวในขณะละหมาด ” (บันทึกโดย : อบูดาวูด ) โดยกล่าวว่า หมายถึง เอามือวางบนสะเอวในขณะละหมาด
3. แหงนมองฟ้า
รายงานจาก อบีหุร็อยเราะฮ ว่า ท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
ความว่า : “ แน่นอนไกล้ๆ วันกียามะฮนั้น จะมีกล่มชนหนึ่งที่ยกสายตาของพวกเขาไปสู่ฟากฟ้า หรือสายตาของพวกเขาจะมองเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา ”( บันทึกโดย : อะฮหมัด มุสลิม และอันนะซาอี)
4. มองสิ่งที่ทำให้กังวล
รายงานจากอาอิชะฮ ว่า แท้จริงท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัม ได้ละหมาดในเต้นท์ที่ทำด้วยผ้าขนสัตว์มีลวดลาย ท่านจึงกล่าวว่า ลวดลายนี้มันทำให้ฉันกังวลใจ พวกท่านจงเอามันไปที่อบีญะฮมิน( อามิร บุตรหุซัยฟะฮ ) เถิดและจงเอาอัมบียานียะฮของเขา ( เป็นผ้าหนาไม่มีลวดลาย ) มาให้ฉันด้วย
( บันทึกโดย : บุคคอรีย และมุสลิม)
รายงานจากอะนัสว่า ปรากฎว่าม่านของอาอีชะฮ ซึ่งนางใช้กั้นอยู่ทางบ้านของนางนั้นท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวแก่นาง ว่า
ความว่า : “ เธอจงถอดม่านของเธอออกเสีย เพราะมันมีลวดลาย ทำให้ฉันมองเห็นขณะที่ฉันละหมาด ”( บันทึกโดย : อะฮหมัด และบุคคอรีย์)ในหะดิษบทนี้เป็นหลักฐานแสดงทำให้เห็นว่า การที่สายตาจ้องมองอยู่ที่ตัวหนังสือที่เขียนไว้ในขณะละหมาดนั้นไม่ทำให้เสียละหมาด
5.หลับตาทั้งสองข้าง
นักวิชาการบางท่านถือว่าการหลับตานั้นน่าเกลียด แต่บางท่านก็อนุญาติให้กระทำได้ โดยไม่น่าเกลียด หะดิษที่ถูกรายงานว่า น่าเกลียดนั้น เป็นหะดิษที่ไม่ถูกต้องนัก
อิบนุลก็อยยิม กล่าวว่า ที่ถูกนั้นควรจะต้องกล่าวว่า ถ้าหากการลืมตานั้นมันทำให้ขาดการสำรวม อันเนื่องจากทางทิศกิบละฮนั้น มีการประดับประดา หรือมีสีสรรค์ หรืออื่นๆ ที่จะทำให้หัวใจของเขากังวลในกรณีอย่างนั้น การหลับตาก็ไม่เป็นที่น่าเกลียดแต่ประการใด คำกล่าวที่บอกว่าส่งเสริมให้กระทำในสภาพอย่างนี้นั้น มันใกล้กับพื้นฐานและเป้าหมายของศาสนบัญญัติมากกว่าที่จะบอกว่าน่าเกลียด
6.การให้สลามโดยใช้มือทั้งสองข้าง
รายงานจากญาบิร บินสะมุราะฮ ว่า พวกเราเคยละหมาดตามท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัมแล้วท่านกล่าวว่า
ความว่า : “พวกนั้นเขาเป็นอะไรไป ใช้มือให้สลาม มันช่างเหมือนกับหางม้าที่สะบัดอยู่กลางแดด แท้จริงการที่คนหนึ่งคนใดในหมู่พวกเจ้าเอามือของเขาวางไว้บนขาอ่อนเขาแล้ว กล่าวว่า “ อัสลามูอาลัยกุม อัสลามูอาลัยกุม ”ก็เป็นการเพียงพอแล้ว ” บันทึกโดย : อันนะซาอี
7.การปิดปากและปล่อยผ้าให้ยาวถึงพื้น
รายงานจากอบีหุร็อยเราะฮ ว่า
ความว่า : “ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัม ได้ห้าม “สะดัล” ในขณะละหมาด และห้ามมิให้คนหนึ่ง คนใดปิดปากของเขา ” ( บันทึกโดย : อบูดาวูด )
อัฎฎ็อบรอนี ได้กล่าวว่า “สะดัล” คือ การปล่อยให้ผ้ายาวลงไปจรดพื้น
อัลกะมาล อิบนุล หุมาม ได้กล่าวว่า “สะดัล” คือ การสวมเสื้อคลุมโดยไม่เอามือสอดเข้าไปในแขนเสื้อ
8.การละหมาดเมื่อมีอาหารมาตั้งต่อหน้า
รายงานจากอาอิชะฮ ว่า แท้จริงท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
إِذَا وُضِعَ العَشَاءُ وَأُقِيْمَتْ الصَّلاَةُ فَا بْدَ ءُوْا بِا لْعَشَاءِ
**ความว่า : “เมื่ออาหารเย็นถูกนำมาวาง แล้วการละหมาดก็ได้ถูกอิกอมะห์แล้ว พวกท่านจงรับประทาน อาหารเย็นเสียก่อน ” ( บันทึกโดย : อะฮหมัด และมุสลิม )
รายงานจากนาเฟี๊ยะอว่า “แท้จริงอิบนะอุมัรนั้น เคยมีผู้เอาอาหารเย็นมาวางให้ และการละหมาดก็กำลังจถูกเริ่ม ( อิกอมะฮ ) เขายังไม่มาละหมาดจนกว่าจะรับประทานเสร็จเสียก่อนโดยที่เขาได้ยินการอ่านของอิมาม ” (บันทึกโดย : บุคคอรีย์ )
อัลค็อฎฏอบีอได้กล่าวว่า แท้จริงท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัม ได้ใช้ให้เริ่มทานอาหารเพื่อให้ร่างกายได้ความต้องการเสียก่อน ผู้ละหมาดก็จะมาเข้าสู่การละหมาดโดยสงบไม่กังวลกับการหิวอาหาร ( ถ้ามิเช่นนั้น ) เป็นเหตุให้ต้องรีบ รุกั๊วะฮก็ไม่สมบูรณ์ สูหญูดก็ไม่สมบูรณ์ และหน้าที่ก็ไม่สมบูรณ์
9.การละหมาดโดยปวดปัสสาวะอุจาระ และที่คล้ายกับทั้งสอง ซึ่งทำให้ใจกังวล
ทั้งนี้เพราะมีหะดิษที่บันทึกโดยอะฮหมัด อบูดาวูด และอัตติรมีซี โดยถือว่าเป็นหะซันจากเษาบานว่า แท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
ความว่า “ สามประการที่ไม่อนุญาตให้คนหนึ่งคนใดทำ : (1) คนหนึ่งคนใดไม่นำผู้คนละหมาด และเขาอวยพรให้เขาเพียงคนให้เขาเพียงคนเดียว โดยไม่ขอให้พวกเขา ถ้าเขาทำอย่างนั้น แน่นอนเขาได้ทรยศต่อพวกเขาเข้าแล้ว (2) เขาจะต้องไม่มองเข้าไปภายในบ้านก่อนที่จะได้รับอนุญาต ถ้าเขาทำอย่างนั้นก็เท่ากับเขาบุกรุก(3) เขาจะไม่ละหมาด โดยที่เขากั้นปัสสาวะเอาไว้จนกว่ามันจะทุเลาลงไป ” (บันทึกโดย : อะหมัด อบูดาวูด และอัตติรมีซีย์)
จากรายงานของอาอิชะฮ ว่า ฉันได้ยินท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
ความว่า : “ คนหนึ่งคนใดจงอย่าละหมาดต่อหน้าอาหาร และไม่ละหมาด โดยที่เขาอดกลั้นปัสสาวะและอุจจาระ” (บันทึกโดย : อะฮหมัด มุสลิม อบูดาวูด)
10. การละหมาดขณะที่ง่วงนอน
รายงานจากท่านหญิงอาอีชะฮ.ว่าแท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัมได้กล่าวว่า
ความว่า : “เมื่อคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกเจ้าหาวนอน ก็จงนอนเสีย จนกว่าการง่วงนอนนอนนั้นจะหายไปจากเขา เพราะความจริง เมื่อเขาละหมาดโดยที่หาวนอนบางทีเขาอาจขออภัยโทษ แต่เป็นการด่าตัวเอง ”( บันทึกโดย : อบูดาวูด )
11. การเจาะจงเอาสถานที่ในมัสยิด โดยเฉพาะเพื่อละหมาด
ยกเว้น อิหม่าม รายงานจาก อับดิรเราะฮมาน อิบนิชิบิล ความว่า
ความว่า : “ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัม ได้ห้ามมิให้ละหมาดแบบนกกาจิกอาหาร และการนอนแบบเสือ และการที่คนหนึ่งโดยเฉพาะในมัสยิดหมือนกับอูฐเอาสถานที่ในการนอน ”( บันทึกโดย :อะฮหมัด อิบนูคุซัยมะฮ อินูฮิบบาน และอัลฮากิม)
บันทึกโดย : อะฮหมัด อิบนูคุซัยมะฮ อินูฮิบบาน และอัลฮากิม
ที่มา: akrom-bom.blogspot.com