มักกะห์ในอดีต กับความเป็นศูนย์กลางความรู้ของ ชาวมลายูนูซันตารา


4,446 ผู้ชม

ถ้าเรายังจำได้ในอดีต สำหรับชาวมลายูมุสลิมนูซันตาราแล้วมักกะห์เปรียบเสมือนศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ ศูนย์กลางแห่งการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาศาสนาและการฟัตวาชี้ขาดในด้ามฮุกมชารีอะห์


มักกะห์ในอดีต กับความเป็นศูนย์กลางความรู้ของ ชาวมลายูนูซันตารา

มักกะห์ในอดีต กับบทบาทความเป็นศูนย์กลางความรู้ของชาว มลายูนูซันตารา

ถ้าเรายังจำได้ในอดีต สำหรับชาวมลายูมุสลิมนูซันตาราแล้วมักกะห์เปรียบเสมือนศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ ศูนย์กลางแห่งการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาศาสนาและการฟัตวาชี้ขาดในด้ามฮุกมชารีอะห์ กระทั่งจนถึงต้นศตวรรษที่ 20 ผู้รู้ของชาวมลายูและบรรดาอูลามาอ์ ได้กลับมายังบ้านเกิดและเปิดสอนในสถาบันที่เรียกว่า ปอเนาะ หลังจากที่เรียนที่มักกะห์เป็นเวลา 20-30 ปี

ในช่วงก่อนศตวรรษที่ 20 มัสยิดต่างๆในมักกะห์ มีการเรียนการสอนกีตาบแบบดั้งเดิม รูปแบบฮาลาเกาะห์ภายใต้การสอนของบรรดาปวงปราชญ์และอาเล็มอูลามาอ์ รวมทั้งในมัสยิดฮารอม ทุกๆมุมของมัสยิดจะมีมุมที่เจาะจงสำหรับการเรียนการสอนทั้ง 4 มัสฮับ

วิทยาการความรู้ทุกอย่างได้สิ้นสุดและสลายไปอย่างน่าเสียดาย หลังจากที่มีการสถาปนารัฐสาอุดี วะห์ฮาบี หลังจากที่อุดมการณ์วะห์ฮาบีเริ่มแสดงอิทธิฤทธิ์เพื่อเข้ามาแทนที่การเรียนการสอนของอูลามาอ์ทั้ง 4 มัสฮับ บรรดาอูลามาอ์นูซันตารา ไม่มีเสรีภาพในการเผยแพร่ความรู้เหมือนแต่ก่อน

ในปี 1924 มุฟตี ชารีฟมักกะห์ เชคอับดุลเลาะห์ ซาวาวี (ดั้งเดิมเป็นคน ปุนตียานัก ประเทศอินโดนีเซีย) ถูกวะห์ฮาบีสังหารฆ่าที่ตออีฟ ท่านเชคเป็นอูลามาอ์ที่เคารพรักของชาวมุสลิมนูซันตารา การฆ่าท่านเชคทำให้เกิดความหวาดกลัวต่ออูลามาอ์ที่เป็นชาวมลายู ทำให้อูลามาอ์จากนูซันตาราหลายร้อยคนได้หนีออกจากมักกะห์เพื่อรักษาชีวิต และความปลอดภัย บางคนได้ฮิจเราะห์มาอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย อาเจะห์ อินโดนีเซีย และกลับมายังปาตานี

หลังจากนั้นเป็นต้นมา มักกะห์ไม่ใช่ดินแดนที่เป็นศูนย์กลางทางวิทยาการความรู้ศาสนาของชาวมุสลิมมลายูนูซันตาราอีกต่อไป และศูนย์กลางการเรียนรู้ของชาวมลายูมุสลิมนูซันตาราถูกเปลี่ยนไปอยู่ที่ไคโร ประเทศอียิปต์ส่วนมักกะห์และมาดีนะห์กลายเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของวะห์ฮาบีแทน

มักกะห์ในอดีต กับความเป็นศูนย์กลางความรู้ของ ชาวมลายูนูซันตารา

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา รัฐบาลสาอุดีต้องการขยายอำนาจ สร้างความมั่นคงด้านอำนาจทางการเมืองที่ได้ปล้นจากชาวมุสลิม หลังจากได้ช่วยอังกฤษล้มอณาจักรออตโตมาน และสาอุดีต้องการเป็นผู้มีอิทธิพล เพื่อควบคุมโลกมุสลิม จำเป็นต้องขยายอำนาจอิทธิพลในตะวันออกกลางและโลกมลายู แข่งขันกับชีอะห์ อีหร่าน ที่ต้องการเผยแพร่อุดมการณ์ชีอะห์และต้องการเป็นผู้มีอิทธิพลในโลกมุสลิมเช่นกัน

สาอุดีเริ่มมีนโยบายขยายแนวคิดวะห์ฮาบีด้วยวิธีการหลากหลายรูปแบบโดยเฉพาะให้ทุนการศึกษา สร้างโรงเรียน และให้ทุนเพื่อเผยแพร่แนวคิดวะห์ฮาบีจนลูกโตะครูและชาวมลายูบางคนที่ยังคงเรียนอยู่ที่มักกะห์และมาดีนะห์ได้รับข้อ้สนอดีๆ ได้รับทุนเรียนและรับความรู้จากมหาวิทยาลัยวะห์ฮาบีและกลับมาเผยแพร่แนวทางวะห์ฮาบีในบ้านเรา

คนส่วนใหญ่ในแหลมมลายูนูซันตาราดั้งเดิมเป็นผู้เจริญรอยตาม อากีดะห์ อะห์ลิลซุนนะห์ วัลยามาอะห์ อาชาอีเราะ และฟิกฮ์สังกัดมัสฮับ ชาฟีอีย์ แต่นักศึกษามลายูบางคนที่ได้รับการเรียนการสอนของวะห์ฮาบีคำนึงถึงความสุขสบายส่วนตัวไม่ฟังเสียงเตือนของบรรดาอูลามาอ์ที่ได้ห้ามปรามไว้ ได้นำพาแนวทางใหม่กลับมา ทำให้สองอุดมการณ์ทางความคิดไม่สามารถลงรอยกันในทุกๆด้าน จึงกลายเป็นปัญหาและความขัดแย้ง

นักศึกษารุ่นแรกที่จบมาถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการนำความหายนะและความขัดแย้ง ความวุ่นวายเละเทะ และถือว่าเป็นผู้จุดไฟฟิตนะห์กลับมาสู่สังคมบ้านเรา สาอุดีอัดฉีดงบประมาณไม่อั้น ให้ทุนการศึกษา ให้เงินสร้างมหาวิทยาลัย โรงพยาบาล สหกรออมทรัพย์ มูลินิธิต่างๆ รองรับการขยายตัวของบุคลากร และเป็นการขยายอำนาจอิทธิพลแนวคิดเข้ามายังแหลมมลายูเพื่อต้องการเป็นผู้ทรงอิทธิพลในโลกมุสลิม โดยไม่ได้ สนใจความแตกแยก ความสูญเสีย ทำลายรากฐานเดิมที่เป็นรากฐานอิสลามสี่มัสฮับ ต้องการเพียงอย่างเดียวคือเปลี่ยนให้ชาวมุสลิมละทิ้งแนวทางเดิมและให้หันมารับอุดมการณ์วะห์ฮาบีเท่านั้น

ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแนวทางอาชาอีเราะห์วามาตูรีดิยะห์ และ 4 มัสฮับเป็นแนวทางที่ถูกวางรากฐานทางความรู้มานานพันกว่าปี สืบทอดจากสาลาฟูศอและห์ ศอฮาบัต เป็นแนวทางของบรรดาเหล่าปวงปราชญ์อูลามาอ์มูฮัดดิษษีน และมูฟัศซีรีน ที่เป็นอูลามาอ์หมู่มากของโลกมุสลิมมาตั้งแต่อดีต แต่แนวทางวะห์ฮาบีที่เพิ่งเกิดขึ้นมาเมื่อไม่กีร้อยไปได้เข้ามายังคนรุ่นใหม่ที่ไม่ใช่นักศาสนา ได้กัดเซาะความคิดพวกเขาทีละนิดๆ ทำลายอิสลามจากภายในเพื่อเข้ามาแทนที่แนวทางอิสลามอะห์ลิลซุนนะห์ดั้งเดิม

ประวัติศาสตร์เรื่องราวที่มาคร่าวๆเกี่ยวกับที่มาของความขัดแย้งที่เราได้เห็นในสังคมเราในวันนี้ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งที่แพร่ขยายในสังคมมุสลิมและคาบสมุทรมลายู แนวคิดอิสลามถูกทำลายจากภายในโดยขบวนการวะห์ฮาบีและถูกทำลายจากภายนอกโดยนักล่าอณานิคมอังกฤษ ทุกคนต่างก็ทราบดีว่าทั้งวะห์ฮาบีและอังกฤษมีความเชื่อมโยงกันอย่างไร

ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะให้ทุกคนตระหนักถึงความอันตรายของขบวนการเหล่านี้ เพราะ การมาในครั้งนี้ได้มาในคราบเสื้อคลุมของศาสนาที่สร้างความคลุมเคลือและสับสนให้กับคนอาวามไม่ใช่น้อย อาวุธของพวกเขาคือการใช้คนยาเฮลจำนวนมากเพื่อทำลายผู้รู้และอูลามาอ์ ดั่งที่เราเห็นในวันนี้อูลามาอ์ ผู้รู้ในบ้านเราไม่เป็นที่เคารพ ถูกหยามเกียรติ และถูกดิสเครดิตด้วยการฟิตนะห์ในรูปแบบต่างๆ

คนยาเฮลกลับได้รับการยกย่อง ส่วนคนอาเล็มจะเป็นที่ดูถูกเหยียดหยาม อย่าปล่อยให้แนวคิดเหล่านี้เล็ดลอดเข้ามาในครอบครัวและคนใกล้ชิดเพราะมันคือ ยาพิษและระเบิดเวลาอย่างดีที่รอคอยเวลาเพื่อปะทุทำลายสังคม มุสลิมของเราต่อไป

ที่มา: Wahabi Shiah Yahudi

อัพเดทล่าสุด