แต่ทว่าชัยฏอนเหล่านั้นต่างหากที่ปฏิเสธการศรัทธาโดยสอนมนุษย์ซึ่งวิชาไสยศาสตร์
ห้ามทำเด็ดขาด!! คาถาอาคม...ความนิยมของมุชริกีน
ท่านพี่นองร่วมศรัทธาที่รัก
อุลามาอ์ (اَمْؼُلَمَاءُُ ) ปวงปราชญ์ของอิสลามให้ทัศนะว่า นักเวทมนต์คาถา เป็นผู้ทาบาปใหญ่ถึงขั้นคาว่า ชิริก และกุโฟร อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ตรัสว่า :
وَمَكِنَ اُمشَ يَاطِيَْ نَُفَرُواْ يُُؼَلِّمُونَ اُمنَاسَ اُمسِّحْرَُ: سُورة اُمبلرة :ُ اُلٓية
ความว่า “แต่ทว่าชัยฏอนเหล่านั้นต่างหากที่ปฏิเสธการศรัทธาโดยสอนมนุษย์ซึ่งวิชาไสยศาสตร์”
อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงบอกเล่าเรื่องของฮารูต ( ىَارُوْت ) และมารูต ( مَارُوْت ) ในอัลกุอานว่า :
ความว่า “และพวกเขาได้กระทาตามสิ่งที่ชัยฏอนทั้งหลาย ในสมัยนบี สุลัยมานอะลัยฮิสสลามอ่านให้ฟัง ซึ่งนาวิชาไสยศาสตร์ออกเผยแพร่และปฏิบัติกัน และสุลัยมานหาได้ปฏิเสธการศรัทธาไม่ แต่ทว่าชัยฏอนเหล่านั้นต่างหากที่ปฏิเสธการศรัทธาโดยสอนผู้คนทั้งหลายซึ่งวิชาไสยศาสตร์และสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่มะลาอิกะฮ์ทั้งสอง คือ ฮารูตและมารูต ณ เมืองบาบี้ล (กล่าวคือวิชาไสยศาสตร์ที่อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงให้มะลาอีกะฮ์ทั้งสองนามาเพื่อทดสอบความ อีหม่านของบนีอิสรออีล และเขาทั้งสองจะไม่สอนให้แก่ผู้ใดจนกว่าจะกล่าวว่า แท้จริงเราเพียงเป็นผู้ทดสอบเท่านั้น ท่านจงอย่าปฏิเสธการศรัทธาเลย (กล่าวคือ จงอย่าศึกษามันเลยเพราะเป็นการปฏิเสธศรัทธา)
และมนุษย์ทั้งหลายก็ศึกษาจากเขาทั้งสอง สิ่งที่พวกเขาจะใช้มันสู่ความแตกแยกระหว่างคนหนึ่งกับภรรยาของเขา และพวกเขาไม่อาจทาให้สิ่งนั้นเป็นอันตรายแก่ผู้ใดได้ นอกจากด้วยการอนุมัติของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) เท่านั้น และพวกเขาก็เรียนสิ่งที่เป็นโทษแก่พวกเขา และมิใช่เป็นคุณแก่พวกเขา และแท้จริงพวกเขารู้แล้วว่า แน่นอนผู้ที่ซื้อมันไว้นั้น (คือผู้ที่เชื่อไสยศาสตร์และยึดถือมัน) ในวันอาคิเราะฮ์ก็ย่อมไม่มีส่วนได้ใดๆ และแน่นอนเป็นสิ่งที่ชั่วช้าจริงๆ ที่พวกเขาขายตัวของพวกเขาด้วยสิ่งนั้นหากพวกเขารู้”
อาจจะมีพี่น้องของเราอีกส่วนหนึ่ง ที่เข้าร่วมและพัวพันกับเวทมนต์คาถา ซึ่งคิดเอาเองว่าเป็นบาปเล็ก แต่หารู้ไม่ว่า มันคือ บาปใหญ่ และเป็นการสร้างชิริกภาคีต่ออัลลอฮ์ (ซ.บ.) ท่านพี่น้องทราบหรือไม่ว่า บทลงโทษในโลกดุนยาของผู้เล่นคาถาอาคมคือการถูกปลิดชีวิต
ท่านนบี (ศ็อลฯ) กล่าวว่า
اِجْتَُنِبُوا اُمسَ بْعَ اُمْمُوْبِلَاتُِ فَُذَنَرَمِنََّْا اَُمسِّحْر: مُتفق ػُليوُ
ความว่า “ท่านทั้งหลายจงออกห่างไกลจากเจ็ดความพินาศหนึ่งใน เจ็ดคือ اَمسِّحْرُُ ไสยศาสตร์หรือคาถาอาคม”
และนบีมูฮาหมัด (ศ็อลฯ) กล่าวว่า
حَدُّ اُمسَاحِرِضََْبُوُ بُِِمسَ يْفِ :ُُ رُواه اُمتَمذي
ความว่า “โทษทันต์ของ اَمسَاحِرُُ นักเวตมนต์เล่นคาถาอาคมคือการฟันเขาด้วยคมดาบ”
จากท่านบุญาละฮ์บินอับดะฮ์ (بَُُالََُ بُْنُ غَُبْدَةُُ ) กล่าวว่า
أَتاَنََ نُِتَابُ عََُُرَ رَُضَِِاُللُُ غَُنْوُ كَُبْلَ مَُوْتِوِ بُِسَ نَةٍ أَُنِ اُكْتُلُوْا كَُُُ سَُاحِرٍ وَُسَاحِرَةٍُ
ความว่า “ได้มีสารจากท่านค่อลีฟะฮ์ อุมัรบินค๊อฏฏ๊อบ ร่อฎิยั้ลลอฮุอันฮุ ก่อนการตายของท่านเพียงหนึ่งปีมายังพวกเรา มีใจความว่า ท่านทั้งหลายจงฆ่าทุกนักเวทมนต์คาถาอาคมทั้งหญิงและชาย”
จากท่านอะลีบินอะบีฏอลิบกล่าวว่า
اَمْكاَىِنُ سَُاحِرٌُ وَُامسَاحِرُُ كُاَفِرٌُ
ความว่า “ผู้ทานาย ทายทักคือซาหิรและซาหิรคือผู้ปฏิเสธศรัทธา”
ท่านอะบีมูซา ร่อดิยัญลอฮุอัลฮุ กล่าวว่าท่านนบีมูฮาหมัด (ศ็อลฯ) กล่าวว่า
ثَلاَثَةٌ لُاَ يَُدْخُلُوْنَ اُمْجَنَةَ مُُُدْمِنُ اُمْخَمْرِ وَُكَاطِعُ رَُحِمٍ وَُُمُصَدِّقٌ بُِِمسَاحِرُِ :ُُُ رُُواه اُحْدُ
وابن حُبان وُابويؼلَ وُالحاكمُ
ความว่า “สามจาพวกจะไม่ได้เข้าสวรรค์ 1. ผู้เสพสุรา 2. ผู้ตัดขาดเครือญาติ 3. ผู้ที่เชื่อต่อเวทมนต์ และในทานองเดียวกัน การรักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วยคาถาอาคมหรือแขวนเครื่องรางของขลังและการทาเสน่ห์ยาแฝด”
ดั่งท่านนบีมูฮาหมัด (ศ็อลฯ) กล่าวว่า
أَمرُّقََ وَُامتَمَائُِِ وَُامتِّوَلََُ شُِِْكٌ :ُُ رُُواه اُحْد وُابوداود
ความว่า “การรักษาด้วยเวทมนต์ การแขวนเครื่องรางของขลัง การทาเสน่ห์ยาแฝด เป็นชิริก ”
ท่านค๊อฏฏอบีย์ (اَمْخَطَابُِ ) รอฮีมะฮุลลอฮ์ กล่าวว่า อนึ่งการรุกยะฮ์ชัรอียะฮ์ คือการรักษาโรคภัยไข้เจ็บหรือถูกทาของ (ไสยศาสตร์) ด้วยกุรอานหรือพระนามของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) เป็นที่อนุญาต เนื่องจากท่านนบีได้ทาการรักษาและขอความคุ้มครองจากอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ให้แก่หลานของท่านนามว่า หะซันและหุซัยน์ ร่อฎิยั้ลลอฮุอันฮุ มาด้วยสานวณดังนี้
اُغِيْذُكُُمَبِكََِمَاتِ اُللِ اُمتَامَةِ مُِنْ كُُُِّ شَُ يْطَانٍ وَُىَامَةٍ وَُمِنْ كُُُِّ ػَُيٍْْ لُاَمَةٍ :ُُ رُواه اُمبخاري
ความว่า “และท่านกล่าวว่า ท่านนบีอิบรอฮีม ก็ปฏิบัตเช่นนี้แก่นบี อิสมาอีลและนบีอิสหากอะลัยฮิมัสสลาม”
أَكُوْلُ كَُوْلِِْ ىَُذَا وَُأَسْ تَغْفِرُ اُللَ اُمْؼَظِيَْْ لُِِْ وَُمَكُُْ وَُمِسَائِرِ اُمْمُسْلِمِيَْْ وَُامْمُسْلِمَاتُِ
هوَُ ىُُوَ اُمْغَفُوْرُ اُمرَحِيُُْْ
ِ
فَاسْ تَغْفِرُوْهُ اُ