ชนิดของไสยศาสตร์และลักษณะอาการของไสยศาสตร์แต่ละชนิด รู้ไว้เพื่อจะได้ป้องกันถูกวิธี
ชนิดของไสยศาสตร์และลักษณะอาการของไสยศาสตร์แต่ละชนิด รู้ไว้เพื่อจะได้ป้องกันถูกวิธี
• หนึ่ง ไสยศาสตร์ชนิดที่ทำให้เกิดความแตกแยก ( السحر التفريق )
ไสยศาสตร์ชนิดนี้คือไสยศาสตร์ที่อัลลอฮฺ ทรงตรัสว่า :
ความว่า : “แล้วเขาเหล่านั้นก็ศึกษาจากเขาทั้งสอง สิ่งที่พวกเขาจะใช้มันยังความแตกแยกระหว่างบุคคลกับภรรยาของเขา” (อัลบะเกาะเราะฮฺ: 102)
ไสยศาสตร์ ชนิดนี้แบ่งออกหลายประเภท ดังนี้
1- ทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างชายผู้หนึ่งกับแม่ของเขา
2- ทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างชายผู้หนึ่งกับพ่อของเขา
3- ทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างชายผู้หนึ่งกับพี่น้องของเขา
4- ทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างชายผู้หนึ่งกับเพื่อนของเขา
5- ทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างชายผู้หนึ่งกับผู้ร่วมงานหรือผู้ร่วมลงทุนธุรกิจกับเขา
6- ทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างชายผู้หนึ่งกับภรรยาของเขา และชนิดสุดท้ายนี้ถือว่าอันตรายและมีคนทำมากที่สุด
ชัยคฺ ซียาด อัซซาม กล่าวว่า “สาเหตุส่วนใหญ่ของไสศาสตร์ชนิดนี้คือความอิจฉา ความเกลียดชัง หรือเนื่องจากผลประโยชน์เพียงเล็กน้อย ไสยศาสตร์ชนิดนี้มีผลกระทบต่อลักษณะนิสัยของผู้ที่ถูกครอบงำ ทำให้เขาเป็นเสมือนคนละคน สามีที่แสนรักของภรรยาก็จะกลายเป็นศัตรูของนาง หรือภรรยาที่แสนรักของสามีก็จะกลายตัวน่ารังเกียจของเขาและเขาจะออกห่างจากนาง สองฝ่ายเพิ่มความเกลียดชังต่อกันจนกระทั่งทั้งสองไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ในที่สุด (Ziad azzam : www.ziadazzam.com)
ส่วนอาการของไสยศาสตร์ชนิดนี้คือ สภาพความเป็นมิตรระหว่างครอบครัวและเพื่อนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน จากรักกลายเป็นเกลียด มีความสงสัย วาดระแวงระหว่างกัน ไม่ให้อภัยในความผิดของอีกฝ่ายถึงความผิดนั้นเป็นเพียงความผิดที่เล็กน้อยก็ตาม โต้เถียงกันในเรื่องที่เล็กและทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่โต เปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์และหน้าตาของอีกฝ่ายให้น่าเกลียดเมื่อตอนทั้งสองได้พบเห็นกัน (ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนที่สวยหรือหล่อที่สุดก็ตาม) แท้จริงชัยฏอนหรือญินที่ถูกส่งมาด้วยวิชาทางไสยศาสตร์เป็นผู้ที่ทำให้อีกฝ่ายเห็นภาพน่าเกลียด น่ากลัวบนใบหน้าของอีกฝ่าย รวมทั้งยังทำให้ทุก ๆ การกระทำ และทุก ๆ สถานที่ที่อีกฝ่ายชอบเป็นที่น่ารำคาญและเป็นที่ที่น่ารังเกียจสำหรับอีกฝ่าย (Wahid Abdussalam Baliy, 2000: 105)
• สอง ไสยศาสตร์ที่ทำให้เกิดความรัก (سحر المحبة أو التولية)
ไสยศาสตร์ชนิดนี้เป็นไสยศาสตร์ที่ทำให้เกิดความรักของอีกฝ่ายต่ออีกฝ่ายหนึ่งหรือที่รู้จักกันในนาม “การทำเสน่ห์ยาแฝด”
อาการของไสยศาสตร์ชนิดนี้คือ เกิดอาการหลงรัก มีความรักที่ร้อนแรงระหว่างทั้งสองคนเป็นเท่าตัว มีความต้องการทางเพศเพิ่มมากขึ้น ขาดความอดทนในเรื่องเพศสัมพันธ์เมื่อเห็นหน้าอีกฝ่าย มีความคิดถึง กระหายที่อยากเห็นหน้าอีกฝ่ายอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งจะเคารพภัคดีต่ออีกฝ่ายอย่างหลับหูหลับตา (Wahid Abdussalam Baliy, 2000: 139)
• สาม ไสยศาสตร์ที่ทำให้เกิดภาพจินตนาการ (سحر التخييل)
ไสยศาสตร์ชนิดนี้ทำให้เกิดภาพลวงตา จินตนาการเห็นภาพต่าง ๆ ที่ตรงกันข้าม หรือ เห็นภาพเป็นสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ความจริงของมัน
จุดประสงค์ของไสยศาสตร์ชนิดนี้คือ ผู้ที่ถูกครอบงำจะจินตนาการเห็นคนนิ่งเคลื่อนไหว เห็นคนเคลื่อนไหวนิ่ง เห็นสิ่งเล็ก ๆ กลายเป็นสิ่งใหญ่ เห็นใหญ่กลายเป็นเล็ก และเห็นสิ่งต่าง ๆ ไม่ตรงกับความจริงของสิ่งนั้น ๆ เช่น เห็นมนุษย์เป็นภูเขา และเห็นไม้กลายเป็นงูเลื้อย เป็นต้น (Wahid Abdussalam Baliy, 2000: 148)
• สี่ ไสยศาสตร์ที่ให้เป็นบ้า (سحر الجنون)
ไสยศาสตร์ชนิดนี้ทำให้เกิดอาการทางจิตใจเป็นบ้าโดยไม่มีสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคทางจิตเหล่านั้น
จุดประสงค์ของไสยศาสตร์ชนิดนี้คือ ผู้ที่ถูกครอบงำมีอาการเตลิดชอบหนีออกจากบ้าน มีอาการหลงลืมอย่างแรง พูดจาวกวนไปมา สายตาจ้องมองและเบี่ยงเบน ชอบเดินไปมาไม่อยู่คงที่ในที่เดียว ไม่สามารถที่จะทำงานใดงานหนึ่งให้สำเร็จได้ ไม่ใส่ใจในภาพลักษณ์ภายนอกของตัวเอง และในกรณีที่เป็นมากเขาจะเดินออกไปโดยไม่มีจุดมุ่งหมาย และบางครั้งก็จะนอนในสถานที่ที่คนไม่นอนกัน (Wahid Abdussalam Baliy, 2000: 153)
• ห้า ไสยศาสตร์ที่ทำให้มึนชา (سحر الخمول)
จุดประสงค์ของไสยศาสตร์ชนิดนี้คือ ผู้ที่ถูกครอบงำมีอาการชอบความโดดเดี่ยว ชอบอยู่คนเดียวออกห่างจากผู้คนโดยสมบูรณ์ มีอาการเงียบตลอดเวลา ไม่ชอบการรวมกัน ไม่เข้าร่วมกับกลุ่มคนมาก ๆ ความคิดเตลิด มีอาการปวดหัวสม่ำเสมอ บางครั้งก็มีอาการนิ่งเฉย มึนชาตลอดเวลา (Wahid Abdussalam Baliy, 2000: 159)
• หก ไสยศาสตร์ที่ทำให้เกิดอาการกู่ร้องหรือกระโกน (سحر الهواتف)
จุดประสงค์ของไสยศาสตร์ชนิดนี้คือ ผู้ที่ถูกครอบงำจะฝันน่ากลัวบ่อย ๆ ในความฝันจะเห็นเหมือนว่ามีคนมาเรียกเขา เขาก็จะฟังเหมือนว่ามีเสียงมากระซิบคุยกับเขาในขณะตื่นหรือรู้สึกตัวแต่ก็ไม่ประกฎว่ามีใครที่กำลังคุยอยู่กับเขา เกิดอาการวัสวาส (อาการรวนเร) มากกว่าปกติ มีอาการสงสัยต่อเพื่อน ๆ และสงสัยคนที่เขารัก บางครั้งเขาจะฝันว่าเขากำลังจะตกจากที่สูง และบางครั้งเขาก็จะเห็นสัตว์ต่างๆ มารุมทำร้ายเขาในความฝันของเขา (Wahid Abdussalam Baliy, 2000: 162)
• เจ็ด ไสยศาสตร์ชนิดที่ทำให้เกิดอาการไม่สบาย (سحر المرض)
จุดประสงค์ของไสยศาสตร์ชนิดนี้คือ ผู้ที่ถูกครอบงำจะเกิดอาการเจ็บที่ส่วนหนึ่งของร่างกายเป็นประจำ(โดยไม่รู้สาเหตุ) เป็นลมบ้าหมูแบบกะทันหัน อวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายเป็นอัมพาต หรือร่างกายทุกส่วนเป็นอำพาต และบางครั้งอาจทำให้สัมผัสส่วนหนึ่งไม่สามารถทำงานตามปกติได้ (Wahid Abdussalam Baliy, 2000: 165)
• แปด ไสยศาสตร์ชนิดที่ทำให้เกิดอาการตกเลือด (سحر النزيف)
ไสยศาสตร์ชนิดนี้ทำให้เกิดอาการตกเลือด ซึ่งฟุเกาะฮาอฺ (นักนิติศาสตร์อิสลาม) เรียกว่าเลือดชนิดนี้ว่า อิสติหาเฎาะฮฺ (เลือดเสีย) และทางการแพทย์เรียกเลือดชนิดนี้ว่า อันนะซีฟ (เลือดตก)
ไสยศาสตร์ชนิดนี้เกิดขึ้นกับผู้หญิงเท่านั้นและจุดประสงค์ของมันคือ ผู้ที่ทำ ไสยศาสตร์จะทำการควบคุมภูตผีญินให้ติดตามผู้หญิงคนที่ต้องการทำไสยศาสตร์นางแล้วบังคับให้ญินตนนั้นทำให้นางตกเลือด โดยการเข้าในร่างกาย เข้าสู่เหงื่อและสายเลือดของนาง ท่านนบี มูฮัมหมัด กล่าวว่า
الشيطان يجري من ابن آدم مجرى الدم
ความว่า: “ชัยฏอนไหลเวียนตามทางเดินเลือด (เส้นเลือด) ของลูกหลานอาดัม” (al-Bukhariy, 1992: 4/282. และMuslim, 1972: 14/155)
และเมื่อไรที่ญินตนนั้นได้เข้าสู่ร่างกายของนางมันจะทำการทำลายมกลูกของนางทำให้เกิดการตกเลือด ท่านนบีมูฮัมหมัด ได้ตอบหัมนะฮฺ บินติ ญะหฺเชน เมื่อนางได้ถามท่านเกี่ยวกับเลือดอิสติหาเฎาะฮฺ (เลือดเสีย) “แท้จริงมันคือการกระตุ้นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นของชัยฏอน” (Wahid Abdussalam Baliy, 2000: 174)
• เก้า ไสยศาสตร์ชนิดที่ทำให้ไม่อยากแต่งงาน (تعطيل الزواج)
จุดประสงค์ของไสยศาสตร์ชนิดนี้คือ ผู้ที่ถูกไสยศาสตร์ครอบงำมีอาการปวดหัวเป็นประจำถึงแม้จะได้รับการรักษาจากทางการแพทย์ปัจจุบันก็ตาม เกิดอาการแน่นหน้าอกอย่างแรงโดยเฉพาะหลังอัศรี่ (ตอนเย็น) จนถึงกลางคืนหรือเที่ยงคืน ผู้ป่วยจะอยู่ในสภาพที่น่าเกลียด คิดมาก นอนไม่สงบ เกิดอาการกลัว บางครั้งก็จะมีอาการปวดกระเพาะอาหารและปวดหลังอย่างสม่ำเสมอ (Wahid Abdussalam Baliy, 2000: 178)
• สิบ ไสยศาสตร์ชนิดที่ทำให้เป็นหมัน (سحر الربط)
อาการของไสยศาสตร์ชนิดนี้คือ ชาย(หรือหญิง)ผู้หนึ่งไม่สามารถที่จะทำการร่วมเพศกับภรรยา(หรือสามี)ของเขาได้ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้ป่วย ทั้งนี้เนื่องจากชัยฏอนที่เป็นตัวแทนของไสยศาสตร์ทำการควบคุมไม่ให้อวัยวะสืบพันธุ์ทำงานได้ตามปกติเมื่อไหร่ที่เขาต้องการจะร่วมเพศสัมพันธ์กับภรรยาของเขา (Wahid Abdussalam Baliy, 2000: 189)
ทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้เป็นส่วนหนึ่งของจุดประสงค์ของ การทำไสยศาสตร์ และบางครั้งไสยศาสตร์แต่ละชนิดก็จะมีจุดประสงค์ที่คล้าย ๆกัน ผู้วิจัยได้รวบรวมมาเพื่อให้รู้เท่าที่สามารถจะนำเสนอได้ทั้งนี้เพราะทำให้ง่ายต่อการรักษาและป้องกันต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: อาบู อับดุลบัร
https://islamhouse.muslimthaipost.com