สามีของฉันไม่ค่อยละหมาดฟัรฎู 5 เวลา ฉันเคยกระตุ้นเตือนเขาแล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล เขาไม่สนใจใยดีคำขอร้องจากฉันเลย...
จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อสามีไม่ละหมาดฟัรฎู 5 เวลา
ตอบคำถามโดย เชค มุฮัมมัด ศอลิหฺ อัล-มุนัจญิด
ถอดความโดย หัฟเศ็าะฮฺ อัล-มุสลิมาต
ถาม : สามีของฉันไม่ค่อยละหมาดฟัรฎู 5 เวลา ฉันเคยกระตุ้นเตือนเขาแล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล เขาไม่สนใจใยดีคำขอร้องจากฉันเลยฉันจึงระงับการร่วมหลับนอนกับเขา เขาก็หาว่าฉันทำไม่ถูก เขาบอกว่าเป็นการดูหมิ่นเขาเอาการละหมาดมาแลกกับการร่วมหลับนอนฉันท์สามี-ภริยา ที่เขากล่าวเช่นนี้ถูกไหมค่ะ ?
ตอบ : อัล-หัมดุลิลลาฮฺ พึงทราบไว้เถิดว่า คนที่ไม่ละหมาดฟัรฎู 5 เวลาและยังแข็งขืนที่จะไม่ยอมละหมาดอีก บรรดาศ่อหาบะฮฺและนักวิชาการมุสลิมส่วนใหญ่ถือว่าเขาผู้นั้นเป็นกาฟิรฺ(ผู้ไม่ยอมรับอิสลาม) ไม่อนุญาตให้แต่งงานกับคนเช่นนี้และไม่อนุญาตให้รับประทานเนื้อที่เขาเชือด
ถ้าสามีไม่ยอมละหมาดเลยทุกเวลา เขากำลังอยู่ในสภาพที่เสี่ยงเอามากๆและไม่อนุญาตให้ภริยาใช้ชีวิตอยู่ร่วมชายคาเดียวกับเขา เธอจำเป็นจะต้องตักเตือนหรือทำอย่างไรก็ได้ให้เขาระลึกถึงสถานภาพของคนที่ทิ้งละหมาด การที่เธอไม่ยอมร่วมหลับนอนกับเขาด้วยเหตุดังกล่าวนั้น เป็นการกระทำที่ถูกต้องชอบธรรมตามหลักการอิสลามแล้ว
จนกว่าเขาจะเริ่มละหมาด เพราะคนที่ไม่ละหมาดถือว่าเป็นกาฟิรฺ ดังที่มีปรากฎในศ่อหี๊ยฺหฺมุสลิม จากรายงานของท่านญาบิรฺ รฎิยัลลอฮุ อันฮุได้ยินท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อฺะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า :
“แท้จริง สิ่งที่อยู่ระหว่างคนๆหนึ่งกับการชิรก์(การตั้งสิ่งใดมีฐานะเทียบเท่าอัลลอฮฺ)และกุฟรฺ(การปฏิเสธความเชื่อในอัลลอฮฺและไม่ยอมรับอิสลาม)นั้น คือการที่เขาทิ้งการละหมาด
พันธสัญญาที่แบ่งแยกเราออกจากชิรก์และกุฟรฺก็คือการละหมาด ดังนั้น ผู้ใดละทิ้งการละหมาด เขาคือกาเฟร
ท่านอับดุลลอฮฺ อิบนิ ชะกีก ได้กล่าวว่า : บรรดาศ่อหาบะฮฺของท่านรสูลุลลอฮฺศ็อลลัลลอฮุ อฺะลัยฮิ วะสัลลัมไม่เคยถือว่าการละทิ้งการงานใดเป็นกุฟรฺนอกจากการละหมาด เธอจะต้องแนะนำตักเตือนสามีของเธอ ให้เขาหยุดละทิ้งการละหมาด ถ้าหากเขายังยืนกรานไม่ยอมละหมาด ก็ไม่เป็นที่อนุญาตแก่เธอที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมชายคาเดียวกับเขา
เนื่องจากเธอเป็นมุสลิมส่วนเขาถือว่าเป็นอย่างอื่นไปแล้วขออัลลอฮฺได้ทรงช่วยเหลือมุสลิมให้ได้ทำในสิ่งที่พระองค์ได้บัญชาใช้ และเชื่อฟังปฏิบัติตามพระองค์ เธอจะต้องแนะนำ เคี่ยวเข็ญเขาให้ทำละหมาด และขออัลลอฮฺได้ทรงโปรดประทานความดีงามและทางนำแก่เขาให้เขาได้กลับเนื้อกลับตัวเป็นบ่าวผู้ภักดีต่อพระองค์ และอัลลอฮฺทรงรู้ดียิ่ง
ที่มา: www.muslimvoicetv.com