มะฮัร ค่าสินสอด ในอิสลาม


7,392 ผู้ชม

อิสลามได้กำหนดเงื่อนไขที่ทำให้การแต่งงานใช้ได้หรือไม่ ด้วยการที่เจ้าบ่าวต้องจ่ายมะฮัร(ค่าสินสอด) แก่เจ้าสาว แม้ว่าฝ่ายเจ้าสาวจะยินยอมแต่งโดยไม่คิดค่าสินสอดก็ตาม...


มะฮัร ค่าสินสอด ในอิสลาม

มะฮัร ค่าสินสอด ในอิสลาม

อิสลามได้กำหนดเงื่อนไขที่ทำให้การแต่งงานใช้ได้หรือไม่ ด้วยการที่เจ้าบ่าวต้องจ่ายมะฮัร(ค่าสินสอด) แก่เจ้าสาว แม้ว่าฝ่ายเจ้าสาวจะยินยอมแต่งโดยไม่คิดค่าสินสอดก็ตาม ดังที่อัลกุรอานกล่าวว่า

ความว่า : "พวกเจ้าจงมอบปัจจัยทานเป็นของขวัญแก่เหล่าสตรีเถิด" (อันนิสาอฺ : 4)

มะฮัร(สินสอด)ถือเป็นของขวัญและสินน้ำใจที่ฝ่ายชายมอบให้ฝ่ายหญิงด้วยความเต็มใจ เป็นข้อผูกพันที่สานสายใยแห่งความรักและความเข้าใจกัน

มะฮัร จึงไม่ใช่ค่าตัวในการประเมินราคาของสินค้า "ผู้หญิง" จึงมิใช่สินค้าที่ผู้ปกครองสามารถตั้งราคาค่าตัวเพื่อซื้อขายกัน ถ้าค่าตัวสูงกลับกลายเป็นว่าสินค้านั้นต้องดี แต่ถ้าค่าตัวถูกสินค้าที่ได้อาจไม่ใช่ของดี การมอบในลักษณะนี้ถือเป็นการดูถูกศักดิ์ศรีของสตรี เพราะของแพงอาจไม่ดีอย่างที่คิดไว้ก็ได้ อิสลามจึงไม่กำหนดค่าสินสอด แต่ได้มอบหมายให้กับความพร้อมของฝ่ายชายและความสบายใจของฝ่ายหญิง ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของแต่ละสังคมที่แตกต่างกันไป

นบีมูฮัมมัด ได้กล่าวแก่ชายคนหนึ่งที่ต้องการแต่งงานกับสตรีนางหนึ่งว่า:

"จงหาค่ามะฮัรถึงแม้จะเป็นแหวนเหล็กเพียงวงหนึ่งก็ตาม แต่ชายคนนั้นไม่สามารถหาได้เช่นเดียวกัน

ท่านนบี จึงแต่งงานด้วยการให้ชายคนนั้นสอนบางซูเราะฮ์ในอัลกุรอานให่แก่สตรีที่จะแต่งงานด้วย"

(รายงานโดยอัลบุคอรีย์/5135)

ในอัลกุรอานได้กล่าวถึงเรื่องราวในอดีตที่นบีชูอัยบ์ได้ยกลูกสาวให้แต่งงานกับนบีมูซาโดยตั้งเงื่อนไขว่า ให้นบีมูซาทำงานเป็นลูกจ้างเป็นเวลา 8 ปีเพื่อเป็นค่าตอบแทนในการแต่งงานในครั้งนี้ ซึ่ง นบีมูซา ได้เพิ่มอีก 2 ปี รวมเป็น 10 ปี 

(อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลเกาะศ็อศ/23-28)

การทำงานโดยไม่คิดค่าจ้างในครั้งนี้ หากประเมินเป็นตัวเลขแล้วเป็นจำนวนที่มากมาย แต่ไม่ใช่เป็นหลักฐานเพื่อนำจะมาปฏิบัติ 

อย่างน้อยเพื่อเป็นบทเรียนว่าการกำหนดค่าสินสอดระหว่างแหวนเหล็กเพียงหนึ่งวง หรือการสอนอัลกุรอาน กับการเป็นลูกจ้างเป็นระยะเวลาถึง 10 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติกันในสังคม และในแต่ละยุค แต่ละเหตุการณ์

ปัญหาที่ต้องแก้ไขในปัจจุบันอย่างเร่งด่วน คือ สินสอด (มะฮัร) ที่มีแนวโน้มจะสูงขึ้นเรื่อยๆ และได้เกิดค่านิยมวัตถุในสังคมมุสลิม ซึ่งพ่อแม่ฝ่ายหญิงมักจะเรียกค่าสินสอดที่เกินความพอดี เพื่อการโอ้อวด จนบางครั้งฝ่ายเจ้าบ่าวต้องยอมแพ้พร้อมท่องประโยคยอดฮิตว่า "รักแท้แพ้มะฮัร" ด้วยความตรอมใจ

สังคมมุสลิมต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นและต้องเป็นผู้ที่แก้ไขเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะหากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข จะกลายเป็นต้นเหตุที่ทำให้การแต่งงานเป็นเรื่องยาก และการซินาเป็นเรื่องง่าย

ขออัลลอฮ์ทรงคุ้มครองด้วยเถอะ ... อามีน

จากหนังสือ "แต่งงานง่าย  ซินายาก"
โดย  อ.มัสลัน  มาหะมะ

www.islammore.com 

อัพเดทล่าสุด