เรื่องน่ารู้ แมลงวันกับการแพทย์ในอิสลาม


12,891 ผู้ชม


เรื่องน่ารู้ แมลงวันกับการแพทย์ในอิสลาม

ท่านศาสดามูฮัมมัด ได้กล่าวว่า “เมื่อมีแมลงวันได้ตกใส่ภาชนะของพวกท่านคนใดคนหนึ่ง ให้เขากดมันให้จมไปทั้งตัว หลังจากนั้นให้เอาทิ้งไปเพราะปีกข้างหนึ่งจากสองปีกของมันนั้นเป็นยาและปีกอีกข้างหนึ่งของมันเป็นโรค” รายงานโดยท่านบุคอรี นะซาอี และท่านอบีดาวูด

              
หะดีษนี้นับเป็นหะดีษที่รู้จักกันแพร่หลายมากที่สุด หะดีษหนึ่งในหมู่ชนมุสลิมทำให้เขาได้รู้ว่าแมลงวันนั้นเป็นสัตว์ที่ต้องระวังเพราะมันมีเชื้อโรคหรือสามารถนำโรคมาให้เราได้แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ได้รู้ด้วยว่าภายในแมลงวันตัวเดียวกันที่นำโรคมาให้มนุษย์นั้นกลับมียาที่จะรักษาโรคนั้นๆรวมอยู่ด้วย
              
เนื่องจากมุสลิมเป็นผู้ที่ยอมรับต่อบัญชาของอัลลอฮ์และคำสอนของท่านศาสดามูฮัมมัดอยู่แล้วและพร้อมที่จะปฏิบัติตามได้ทันทีโดยไม่สงสัยในสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าและศาสดาของพระอง์บอกเลยว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น และมันมีเชื้อโรคจริงๆ หรือไม่ ถ้าจริงคืออะไร ชนิดใด และมียารักษาโรคนั้นจริงหรือไม่ ถ้าจริงคือชนิดใดและอยู่ที่ไหน? นั่นแหละคือความศรัทธามั่นของบรรดามุสลิมที่มีต่อพระผู้เป็นเจ้าของเขา
                  
แต่อย่างไรก็ตามน่าจะเป็นการดีว่า ถ้าเราจะสามารถรู้ได้ว่าแท้ที่จริงแล้วมันคือ อะไรแน่เพราะนี่คือโอกาสทองของบรรดามุสลิมที่ได้รู้คำตอบที่ถูกต้องไว้เรียบร้อยแล้วเหลือเพียงหาสาเหตุที่เป็นจริง ๆ ให้พบเท่านั้น เขาก็สามารถจะรู้ได้โดยง่ายดาย การค้นคว้าในสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพราะเราไม่เชื่อถือในสิ่งที่พระองค์บอกแต่เป็นเพราะเราจะได้ทำตามสิ่งที่พระองค์สั่งเรา อีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือการพิจารณาสังเกตสิ่งที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงสร้างและความมหัศจรรย์ของมันซึ่งจะยิ่งเพิ่มพูนความศรัทธาแก่เราให้มากยิ่งขึ้นและช่วยให้มุสลิมเราได้มีความรู้ความสามารถขึ้นกว่าเดิม แข็งแกร่งกว่าเดิมสามารถที่จะทำให้ศาสนาของพระองค์เป็นที่ยอมรับกันมากยิ่งขึ้นไป การกระทำเช่นนี้จึงเป็นการทำดีต่อพระผู้เป็นเจ้าและศาสนาของเราอีกทางหนึ่ง นอกเหนือไปจากการละหมาด การถือศีลอด การจ่ายซะกาต หรือการทำฮัจย์ก็ตาม สมควรที่พวกเราควรตั้งใจทำกันให้มาก ๆ เพื่อศาสนาของเราเอง
                  
แมลงวัน เป็นสัตย์ที่อยู่คู่กับโลกมานานแล้ว และเป็นที่คุ้นเคยกับคนทั่ว ๆ ไป แต่อย่างไรก็ตามไม่ค่อยได้มีใครรู้รายละเอียดเกี่ยวกับมันเท่าไรนัก


เรื่องน่ารู้ แมลงวันกับการแพทย์ในอิสลาม 
                  
แมลงวันบ้าน มีชื่อทางภาษาอังกฤษว่า HOUSE FLY และมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Musca domestica จัดเป็นแมลงชนิดหนึ่ง ขนาดเล็ก ประกอบด้วย สามส่วนคือ ส่วนที่หนึ่งคือส่วนหัว (Head) ซึ่งจะมีปากไว้ดูดอาหารได้ ส่วนที่สองคือส่วนอก (Thorax) จะประกอบด้วยปล้องสามปล้องและมีขาคู่หนึ่งออกมาในแต่ละปล้อง จึงมีขางอกออกมาทั้งหมดหกขาและปีกสองปีกอยู่เหนือขาปล้องกลาง ส่วนที่สามคือส่วนท้องหรือลำตัว (Abdomen) ซึ่งจะมีกระเพาะอาหาร ลำไส้ และระบบย่อยอาหารอยู่ภายในด้านข้างของลำตัวจะมีท่าหายใจโผล่ออกมาเป็นแถว ๆ ท่อที่ใหญ่ที่สุดจะอยู่บริเวณส่วนอกใต้ปีกสองข้าง ส่วนท่อเล็ก ๆ อื่น ๆ อยู่บริเวณท้อง ตัวโตเต็มวัยจะมีชีวิตประมาณ 17-29 วัน
              
จากการศึกษาพบว่าส่วนมากแล้วแมลงวันจะมีเชื้อโรคติดอยู่ตามขาทั้งหกข้างและปีกทั้งสองข้างของมัน เนื่องจากชอบอยู่ในที่สกปรกและขามันมีลักษณะเป็นขน ๆ เชื้อโรคจึงติดไปกับมันโดยง่าย
                  
แต่ก็เป็นที่น่าแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่งเช่นกันว่า เชื้อโรคเหล่านี้ไม่ได้อยู่ตลอดไปมันจะอยู่ไม่นานแล้วหายไปหมด เช่น B enteritides ที่ทำให้เกิดลำไล้อักเสบหรือโรคท้องร่วงจะอยู่ได้ไม่เกินเจ็ดวัน B typhosus ต้นเหตุของโรคไข้ไทฟอยด์อยู่ได้ไม่เกิน 6 วัน V cholera ที่ทำให้เกิดโรคอหิวาต์อยู่ได้ไม่เกิน 2 วัน หลังจากนั้นมันก็จะหายไปหมดโดยไม่มีเชื้อโรคใด ๆ หลงเหลืออยู่ นอกจากเชื้อที่อยู่เป็นปกติในลำไส้เท่านั้น
                  
นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นคว้าต่อมาจนพบว่าสาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะในลำไส้ของแมลงวันมีไวรัสชนิดหนึ่งอาศัยอยู่และไวรัสชนิดนี้เองที่เป็นตัวจับแบคทีเรียทั้งหมดนี้ และปล่อยดีเอ็นเอของมันเข้าไปในเซลล์เชื้อโรคเหล่านี้จึงต้องผลิตแต่ตัวไวรัสชนิดนี้ออกมาจนตัวเชื้อโรคเองต้องแตกออกและตายไปในที่สุด
              
ไวรัสชนิดนี้จึงมีชื่อว่าแบคเทริโอเฟจ (Bacteriophage) หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า เฟจ (Phage) แปลว่าผู้ฆ่าแบคทีเรียนั่นเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่รู้จักกันดีและได้ถูกใช้นำมาฆ่าเชื้อโรคที่ทำอันตรายมนุษย์เป็นเวลาช่วงหนึ่ง หลังจากนั้นอเล็กซานเดอร์เฟลมมิง คิดค้นยาปฏิชีวนะคือยาเพนิซิลลินขึ้นมาได้เป็นครั้งแรก ก็เลยทำให้แบคเทริโอเฟจ ค่อย ๆ เสื่อมความนิยมลงไปและไม่ค่อยมีการค้นคว้าเกี่ยวกับมันอีก นอกจากในประเทศรัสเซียซึ่งยังมีการค้นคว้ากันอยู่
                  
นอกจากนี้ยังพบด้วยว่าสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่อาศัยร่วมในลำไส้ของแมลงวันแต่ไม่ทำอันตรายแมลงวันนั้นก็มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคด้วยเช่นเดียวกัน โดยเป็นพวกเชื้อราบางชนิดเขาเรียกพวกนี้ว่า ไมโครไบโอตา (Microbiota) ซึ่งหมายถึงสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ๆ นั่นเอง
              
วิธีการฆ่าตัวเชื้อโรคของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ก็โดยการไหลออกมาตามท่าหายในที่อยู่ข้างลำตัวมั่นนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าหายในที่ใหญ่ที่สุดจะอยู่ตรงบริเวณหน้าอกใต้ปีกของแมลงวันเอง
                  
เมื่อแมลงวันถูกกดให้จมน้ำมันจะสำลักและขย้อนเอาของที่อยู่ในลำไส้ของมันออกมาซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ แบคเทริโอเฟจและในขณะเดียวกันก็ยังมีไมโครไบโอตา ที่ถูกขับออกมาทางท่อหายใจออกมาฆ่าเชื้อโรคด้วย
              
ดังนั้นการที่แมลงวันตกลงไปในน้ำ จึงทำให้น้ำนั้นมีเชื้อโรคแต่เมื่อกดแมลงวันนั้นให้จม สารกำจัดโรคก็จะออกมาฆ่าเชื้อโรคเหล่านั้นได้ และสารนั้นก็อยู่บริเวณโคนปีกของแมลงวันนั่นเอง สมจริงดังคำบอกเล่าของท่านศาสดาที่กล่าวไว้เมื่อพันสี่ร้อยปีก่อน ทั้ง ๆ ที่ในสมัยนั้นยังไม่มีใครรู้จักตัวเชื้อโรคและแน่นอนไม่มีใครรู้จักสารฆ่าเชื้อโรคด้วยซ้ำไป แม้แต่วิทยาการสมัยใหม่ก็เพิ่งรู้จักมันเมื่อประมาณร้อยกว่าปีมานี่เอง
              
สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันอย่างดีของการมีอยู่ของพระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงรอบรู้ในทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้ทรงรู้ในสิ่งที่มนุษย์ไม่รู้และคำสอนของศาสดาของพระองค์นั้นก็สมจริงและมีประโยชน์ยิ่งต่อบรรดาผู้ศรัทธาและทำตามพระองค์ เราทั้งหมดจึงควรทำตามที่พระองค์สั่งสอนให้ทุก ๆ อย่าง ทั้งนี้เพื่อความสุขอันสถาพรทั้งในโลกนี้และในโลกหน้าตลอดไป วัสลามฯ
โดย : นายแพทย์กษิดิษ ศรีสง่า
ที่มา : วารสารสุขสาระ ฉบับที่ 35 เดือนพฤศจิกายน 2549

อัพเดทล่าสุด