ชีอะฮฺ เป็นนิกายหนึ่งในอิสลาม ซึ่งนับถือพระเจ้าพระองค์เดียว และท่านนบีมูฮัมมัด(ศ็อลฯ)เป็นนบีคนสุดท้าย หากแต่มีความแตกต่างกับซุนนีย์ในเรื่องของผู้นำศาสนาต่อจากท่านนบีมุฮัมมัด...
อันตรายของ “ชีอะฮฺรอฟิเฎาะฮฺ” ที่คุณควรรู้
ชีอะฮ์ คือใคร?
ชีอะฮฺ เป็นนิกายหนึ่งในอิสลาม ซึ่งนับถือพระเจ้าพระองค์เดียว และท่านนบีมูฮัมมัด(ศ็อลฯ)เป็นนบีคนสุดท้าย หากแต่มีความแตกต่างกับซุนนีย์ในเรื่องของผู้นำศาสนาต่อจากท่านนบีมุฮัมมัด ว่ามาจากการแต่งตั้งของอัลลอฮ์และท่านนบีมุฮัมมัดเท่านั้น หากผู้ใดได้ศึกษาประวัติของวันอีดฆอดีรคุมแล้ว จะพบว่าวันนั้นเป็นวันที่อัลลอฮฺทรงแต่งตั้งอะลีให้เป็นอิมามหรือผู้นำศาสนาคนต่อไปโดยผ่านท่านนบี(ศ็อลฯ) นั้นคืออิมามสิบสองคน อันได้แก่อิมามอะลีย์และบุตรหลานของอิมามอะลีกับท่านหญิงฟาติมะห์ (บุตรีของท่านนบี (ซ.ล.) อีก 11 คน)
มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮฺ ขอความสุขความจำเริญและศานติจงประสบแด่ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ฉันขอปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺเพียงองค์เดียว ไม่มีภาคีใดๆสำหรับพระองค์ และฉันขอปฏิญาณว่ามุหัมมัดเป็นบ่าวของอัลลอฮฺและเป็นศาสนทูตของพระองค์
อัลลอฮฺตะอาลาตรัสว่า
﴿ لُعِنَ ٱلَّذِينَ كَفَرُواْ مِنۢ بَنِيٓ إِسۡرَٰٓءِيلَ عَلَىٰ لِسَانِ دَاوُۥدَ وَعِيسَى ٱبۡنِ مَرۡيَمَۚ ذَٰلِكَ بِمَا عَصَواْ وَّكَانُواْ يَعۡتَدُونَ ٧٨ كَانُواْ لَا يَتَنَاهَوۡنَ عَن مُّنكَرٖ فَعَلُوهُۚ لَبِئۡسَ مَا كَانُواْ يَفۡعَلُونَ ٧٩ ﴾ [المائدة: ٧٨-٧٩]
ความว่า "บรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาในหมู่วงศ์วานอิสรออีลนั้นได้ถูกสาปโดยถ้อยคำของดาวูดและอีซาบุตรของมัรยัม นั่นก็เนื่องจากการที่พวกเขาฝ่าฝืน และที่พวกเขาเคยละเมิดกัน ปรากฏว่าพวกเขาต่างไม่ห้ามปรามกันในสิ่งไม่ชอบที่พวกเขาได้กระทำมันขึ้น ช่างเลวร้ายจริงๆ สิ่งที่พวกเขากระทำ” (อัล-มาอิดะฮฺ: 78-79)
อบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
« مَنْ رَأَى مِنْكُمْ مُنْكَرًا فَلْيُغَيِّرْهُ بِيَدِهِ، فَإِنْ لَمْ يَسْتَطِعْ فَبِلِسَانِهِ، فَإِنْ لَمْ يَسْتَطِعْ فَبِقَلْبِهِ، وَذَلِكَ أَضْعَفُ الْإِيمَانِ » [رواه مسلم برقم 49]
ความว่า “ผู้ใดในหมู่ท่านเห็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็จงเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นด้วยมือของเขา ถ้าหากเขาไม่มีความสามารถก็จงเปลี่ยนแปลงด้วยลิ้นของเขา แต่ถ้าหากเขาไม่มีความสามารถก็จงเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นด้วยหัวใจของเขา และนั่นคือขั้นต่ำที่สุดของระดับความศรัทธา” (บันทึกโดยมุสลิม: 49)
ทั้งนี้ ความชั่วร้ายที่เป็นอันตรายต่อหลักศรัทธาและคำสอนของศาสนามากที่สุดประการหนึ่ง คือฟิตนะฮฺความหลงผิดที่เกิดจากกลุ่ม “ชีอะฮฺรอฟิเฎาะฮฺ” ซึ่งเผยแพร่หลักความเชื่อของพวกเขาไปทั่วทุกหนแห่ง โดยที่พวกเขาแสดงออกให้ผู้คนเข้าใจว่าความเท็จความบิดเบือนของพวกเขานี่แหละคือหลักการอิสลามที่ถูกต้อง!
ที่แย่ไปกว่านั้นคือมีผู้คนบางกลุ่มซึ่งรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ออกมาเรียกร้องเชิญชวนไปสู่การปรองดองสมานฉันท์ระหว่างชาวสุนนีย์และชาวชีอะฮฺ โดยอ้างว่าความแตกต่างระหว่างเรากับเขานั้นเป็นเพียงในส่วนของเรื่องปลีกย่อย ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วเป็นความแตกต่างในประเด็นที่ถือเป็นแก่นสำคัญของหลักยึดมั่นศรัทธา เพราะแนวคิดของกลุ่มรอฟิเฎาะฮฺนั้นเต็มไปด้วยสิ่งที่เป็นการตั้งภาคีและปฏิเสธศรัทธา ซึ่งเข้าข่ายที่จะส่งผลให้สิ้นสภาพความเป็นมุสลิมเสียด้วยซ้ำ และเป็นที่น่าเศร้าใจว่ายังมีชาวสุนนีย์ทั่วไปอีกจำนวนมากที่ไม่ทราบเรื่องเหล่านี้ เพราะอุละมาอ์ชีอะฮฺมิได้เผยแพร่ตำราสำคัญๆ ที่ระบุถึงหลักความเชื่อของพวกเขาให้คนทั่วไปได้ศึกษาหาอ่านได้ (หนังสือ บุฏลาน อะกออิด อัชชีอะฮฺ โดย มุหัมมัด อัต-ตูนิสีย์ หน้า 5-6)
ณ ที่นี้ ข้าพเจ้าจึงขอชี้แจงหลักอะกีดะฮฺที่บิดเบือนหลงผิดบางประการของพวกเขาในภาพรวม โดยอ้างอิงข้อมูลจากตำรับตำราและหนังสือที่พวกเขาเชื่อถือและให้การยอมรับ
ประการแรก: แนวคิดและความเชื่อที่พวกเขามีต่ออิมามจำนวนสิบสองท่าน
อัล-กุลัยนีย์ ได้ระบุใน อุศูล อัล-กาฟีย์ (أصول الكافي) ซึ่งเป็นตำราที่มีความถูกต้องมากที่สุดในมุมมองของพวกเขา เปรียบได้กับ เศาะฮีหฺ อัล-บุคอรีย์ ของชาวสุนนีย์ ว่า “บรรดาอิมามทั้งหลายนั้น หากว่าพวกท่านประสงค์ที่จะรู้สิ่งใดพวกที่มา: www.islammore.com