ในขณะที่คริสเตียนทุกคนเชื่อมั่นว่า พระเยซูคริสต์หรือศาสดาอีซา (อ.) ได้เสียชีวิตด้วยการถูกตรึงกางเขน ทัศนะดังกล่าวนี้ได้ถูกปฏิเสธไว้ในคัมภีร์อัลกุรอาน...
ค้นพบ พระเยซูคริสต์ ไม่ได้ถูกตรึงกางเขน
พระเยซู (Jesus) หรือ เยซูชาวนาซาเร็ธ (Jesus of Nazareth; 4 ปีก่อนคริสตกาล - ค.ศ. 30) เป็นชาวยิวผู้เป็นศาสดาของศาสนาคริสต์ คริสต์ศาสนิกชนเรียกพระองค์ว่า พระเยซูคริสต์ เพราะถือว่าพระองค์เป็นพระคริสต์ พระผู้ช่วยให้รอด เป็นพระบุตรพระเป็นเจ้า และเป็นพระเจ้าพระบุตร ซึ่งเป็นพระบุคคลหนึ่งในพระตรีเอกภาพ
ในขณะที่คริสเตียนทุกคนเชื่อมั่นว่า พระเยซูคริสต์หรือศาสดาอีซา (อ.) ได้เสียชีวิตด้วยการถูกตรึงกางเขน ทัศนะดังกล่าวนี้ได้ถูกปฏิเสธไว้ในคัมภีร์อัลกุรอาน และชาวมุสลิมเชื่อว่า ยูดาห์ (Judah) ผู้เป็นน้องชายของพระเยซูที่มีความละม้ายคล้ายคลึงกับพระเยซูได้ถูกตรึงกางเขนแทน
แต่วันนี้ตุรกีได้ประกาศว่า เนื้อหาส่วนต่างๆ ของพระวรสารของนักบุญบาร์นาบัสสาวกของพระเยซูคริสต์ที่ถูกค้นพบ โดยที่ในพระวรสารนั้นได้เขียนว่า “พระเยซูคริสต์ไม่ได้ถูกตรึงกางเขนและคำกล่าวอ้างต่างๆ ของนักบุญเปาโลอัครทูตที่ว่า พระเยซูคริสต์ถูกตรึงกางเขนนั้นเป็นคำกล่าวอ้างที่โกหก”
ตำรวจตุรกีได้กล่าวว่า : ได้ค้นพบและยึดพระคัมภีร์ซึ่งมีอายุประมาณ 1,500 ถึง 2,000 ปีจากกลุ่มผู้ลักลอบค้าของเถื่อนที่ต้องการจะขายคัมภีร์นี้ในราคา 27 ล้านดอลลาร์ บรรดานักค้นคว้าวิจัยยืนยันว่าพระคัมภีร์เล่มนี้เป็นต้นฉบับดั้งเดิมและตัวอักษรต่างๆ ของมันถูกเขียนด้วยทองคำ ยังมีต้นฉบับอื่นๆ ของพระคัมภีร์ไบเบิล (อินญีล) นี้ซึ่งมีอายุมากกว่าพันปีอยู่ในวาติกัน แต่วาติกันไม่อนุญาตให้มีการเผยแพร่และพบเห็นมันได้โดยสาธารณชน
พระวรสารนักบุญบารนาบัส เป็นคัมภีร์ที่กลายเป็นที่ถกเถียงและขัดแย้งกันมาตลอดเวลาในหมู่ชาวคริสต์ และในคัมภีร์ได้พยากรณ์ถึงการมาของศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) และได้เขียนไว้ว่าพระเยซูถูคริสต์หรือศาสดาอีซา (อ.) ไม่ได้ถูกตรึงกางเขน
ในขณะที่ความเชื่อเกี่ยวกับการถูกตรึงกางเขนของพระเยซูคริสต์นั้นเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปในหมู่ชาวคริสต์ทั้งหมด แต่คัมภีร์อัลกุรอานได้ปฏิเสธความเชื่อเช่นนี้อย่างเต็มที่ และเปาโลซึ่งกล่าวอ้างว่าพระเยซูถูกตรึงกางเขนนั้น คือผู้รู้ชาวยิวคนหนึ่งที่ได้คอยกลั่นแกล้งและทำร้ายชาวคริสต์มาตั้งแต่ต้น และมีการกล่าวอ้างว่าเขาได้กลับตัวกลับใจในภายหลัง แต่นักบุญบาร์นาบัสนั้นเป็นอัครสาวกของพระเยซูคริสต์มาตั้งแต่เริ่มต้น
ในโองการที่ 157 ของซูเราะฮ์ (บท) อันนิซาอ์ได้กล่าวว่า:
وَقَوْلِهِمْ إِنَّا قَتَلْنَا الْمَسِيحَ عِيسَى ابْنَ مَرْيَمَ رَسُولَ اللَّهِ وَمَا قَتَلُوهُ وَمَا صَلَبُوهُ وَلَٰكِن شُبِّهَ لَهُمْ وَإِنَّ الَّذِينَ اخْتَلَفُوا فِيهِ لَفِي شَكٍّ مِّنْهُ مَا لَهُم بِهِ مِنْ عِلْمٍ إِلَّا اتِّبَاعَ الظَّنِّ وَمَا قَتَلُوهُ يَقِينًا
"และคำพูดของพวกเขาที่ (กล่าว) ว่า แท้จริงพวกเราได้ฆ่าอัล-มะซีห์ อีซาบุตรของมัรยัม ศาสนทูต (ร่อซูล)ของอัลลอฮ์ และพวกเขาหาได้ฆ่าอีซาและหาได้ตรึงเขาบนไม้กางเขนไม่ แต่ทว่าเขา (ผู้ตาย) ถูกทำให้เหมือน (อีซา) แก่พวกเขา และแท้จริงบรรดาผู้ที่ขัดแย้งในตัวเขานั้น แน่นอนย่อมอยู่ในความสงสัยเกี่ยวกับเขา พวกเขาหามีความรู้ใดๆ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไม่ นอกจากการยึดถือตามการคาดเดาเพียงเท่านั้น และพวกเขามิได้ฆ่าเขา (อีซา) ด้วยความแน่ใจ"
ที่มา: www.islamicstudiesth.com