รู้หรือไม่ ขณะดื่มน้ำซัมซัม มีซุนนะห์ให้ยืนดื่ม

ซุนนะฮฺในการดื่มน้ำซัมซัม ซุนนะฮฺ (สิ่งที่เป็นแบบอย่าง) สำหรับผู้ที่จะดื่มน้ำซัมซัมและเพื่อการดับความกระหาย บรรดาผู้วินิจฉัยในศาสนาได้กล่าวถึงมารยาทที่เป็นมุสตะฮับ

ซัมซัม เป็นชื่อของบ่อน้ำที่รู้จักกันดี ซึ่งอยู่ภายในมัสญิดอัลฮะรอม โดยอยู่ห่างจากกะบะฮฺไป 38 ศอก เป็นบ่อน้ำที่อัลลอฮฺ (ซบ.) ได้ประทานให้มาเพื่อดับความกระหายของท่านนบีอิสมาอีล (อ.) ผู้เป็นบุตรชายของท่านนบีอิบรอฮีม (อ.) ซึ่งขณะนั้นยังเป็นแค่เด็กทารก มารดาของท่านนบีอิสมาอีล (อ.) คือพระนางฮาญัร (อ.) ได้มองหาน้ำเพื่อที่จะป้อนให้กับท่าน แต่ก็ไม่สามารถจะหามาได้ นางจึงเดินขึ้นไปยังภูเขาซอฟาและได้วิงวอนไปยังอัลลอฮฺ (ซบ.)ให้ประทานน้ำแก่นาง หลังจากนั้นนางก็ได้เดินขึ้นไปยังภูเขาอีกลูกหนึ่งที่มีชื่อว่ามัรวะฮฺ นางได้เดินไปมาระหว่างภูเขาทั้งสองลูกอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งอัลลอฮฺ (ซบ.) ได้ทรงส่งท่านญิบรออีล (อ.) ลงมา และท่านญิบรออีล (อ.) ก็ได้ฟาดลงไปบนพื้นดิน และก็ได้มีน้ำปรากฎขึ้นมา

คุณค่าและคุณลักษณะของน้ำซัมซัม

ซุนนะฮฺในการดื่มน้ำซัมซัม ซุนนะฮฺ (สิ่งที่เป็นแบบอย่าง) สำหรับผู้ที่จะดื่มน้ำซัมซัมและเพื่อการดับความกระหาย บรรดาผู้วินิจฉัยในศาสนาได้กล่าวถึงมารยาทที่เป็นมุสตะฮับ (สิ่งที่ควรปฏิบัติ) เมื่อจะดื่มน้ำซัมซัม นั่นก็คือ ให้หันหน้าไปทางกะบะฮฺ, กล่าวคำบิสมิลลาฮฺ, ให้หยุดดื่มเพื่อหายใจสามครั้ง, และหลังจากที่ดื่มเสร็จให้กล่าวสรรเสริญอัลลอฮฺ (ซ.บ.) นี่เป็นฮะดิษหนึ่งที่ถูกรายงานโดอิบนิ อับบาส
“ฉันได้ให้น้ำซัมซัมแก่ท่านศาสดามูฮัมมัด(ศ็อลฯ) และท่านได้ดื่มในขณะที่ยืนอยู่” (รายงานโดย อัล-บุคอรี, 3/492)

นั่นหมายความว่า เป็นที่อนุญาตสำหรับการดื่มน้ำซัมซัมในขณะที่ยืนอยู่ ซึ่งแสดงออกถึงการให้เกีรติเป็นอย่างสูง

บรรดานักวิชาการยังได้แนะนำเพิ่มเติมว่า ในขณะที่ดื่มน้ำซัมซัมนั้นให้เอาส่วนหนึ่งมาปะพรมบริเวณศีรษะ, ใบหน้า, และหน้าอกของเขา พร้อมทั้งขอดุอาอฺให้มากๆ เพื่อการตอบรับในสิ่งที่ต้องการทั้งในโลกนี้และโลกหน้า เพราะว่ามีฮะดิษจากท่านศาสดามูฮัมมัด(ศ็อลฯ)ได้กล่าวไว้ว่า :

“น้ำซัมซัม คือ ทั้งหมดของคุณประโยชน์ที่ได้จากการดื่มมัน” (รายงานโดย อิบนิ มาญะฮฺ, 2/1018; ดู อัล-มะกออฺซิด อัล-ฮาซานะฮฺ โดย อัล-ซากาฮฺวี, หน้า 359)

มีรายงานว่าเมื่อ อิบนิอับาส ได้ดื่มน้ำซํมซัม ท่านได้กล่าวว่า

“โอ้ อัลลอฮฺ ได้โปรดประทานความรู้ที่เป็นประโยชน์, ปัจจัยยังชีพที่อุดมสมบูรณ์, และการเยียวยาจากโรคภัยต่างๆ”

อัล-ดัยนูรีได้รายงานว่าท่านอัล-ฮูมัยดี ได้กล่าวว่า:

“พวกเราได้อยู่กับซุฟยาน อิบนิ อูยัยนะฮฺ และเขาก็ได้ถามพวกเราถึงฮาดิษที่เกี่ยวกับคุณประโยชน์ของการดื่มน้ำซัมซัม จากนั้นได้มีชายคนหนึ่งได้ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป หลังจากนั้นเขาก็ได้เดินกลับมาพร้อมกับกล่าวว่า “โอ้ อบู มูฮัมมัด, ฮะดิษที่ท่านได้บอกเกี่ยวกับคุณลักษณะของน้ำซัมซัมนั้นเป็นฮะดิษที่ซอเฮี้ยะใช่หรือไม่?” เขาได้ตอบว่า “ใช่” ชายคนนั้นก็ได้กล่าวต่อว่า “เมื่อสักครู่นี้ ฉันได้ดื่มน้ำซัมซัมที่อยู่ในถัง ดังนั้นท่านจงบอกฉันถึงหนึ่งร้อยฮาดิษ” ซุฟยาน จึงได้กล่าวว่า “นั่งลงเถิด” ชายผู้นั้นจึงได้นั่งลงและเขาจึงได้บอกถึงหนึ่งร้อยฮาดิษเกี่ยวกับน้ำซัมซัม”

ผู้วินิจฉัยศาสนาบางท่านได้ส่งเสริมให้ผู้มาประกอบพิธีฮัจญ์ได้นำน้ำซัมซัมกลับไปยังประเทศของเขา เพราะมันเป็นวิธีการหนึ่งทีช่วยในการบำบัดโรคต่างๆ ได้มีรายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ(รฎ.)ว่า ท่านได้นำน้ำซัมซัมใส่ในขวดกลับไปยังบ้านของท่าน และได้กล่าวว่า

“ท่านศาสดา(ศ็อลฯ) ได้ใช้น้ำบางส่วนจากในขวดนี้ พรมไปยังร่างกายของผู้ป่วยและพร้อมกับให้เขาดื่ม” (รายงานโดย อัล-ติรมีซีย์, 4/37)

อัล-ฮาฟิซ อัล-ซากาวี ได้กล่าวไว้ในหนังสือ อัล-มะกาอะซิด อัล-ฮาซานะฮฺ :

“ได้มีบางคนได้กล่าวว่าคุณค่า(ของน้ำซัมซัม)จะยังคงอยู่เฉพาะ ณ บ่อน้ำซัมซัมเท่านั้น และถ้ามันถูกนำออกมาคุณค่าก็จะเปลี่ยนแปลงไป นี่ถือว่าเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง ท่านศาสดามูฮัมมัด(ศ็อลฯ) ได้เขียนจดหมายถึงซูเฮร อิบนิ อัมร์ ว่า : “ถ้าจดหมายได้ไปถึงท่านในตอนกลางคืน ก็อย่าได้รอให้ถึงตอนเช้า และถ้าจดหมายไปถึงตอนกลางวัน ก็อย่าได้รอให้ถึงตอนเย็น จงรีบส่งน้ำซัมซัมมาให้ฉัน”

จากนั้นเขาได้ทำการจัดส่งน้ำซัมซัมจำนวน 2 ถัง ไปยังท่านศาสดามูฮัมมัด(ศ็อลฯ) ณ นครมะดีนะฮฺ ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาก่อนที่ท่านจะพิชิตนครมักกะฮฺได้ ฮะดิษนี้ถือว่าเป็นฮะดิษฮะซัน(ชื่อถือได้) เพราะมีหลักฐานยืนยันว่า ท่านหญิงอาอิชะฮฺ(รฎ.)ก็ได้ใช้น้ำซัมซัมที่เธอได้นำมาจากบ่อน้ำเช่นกัน พร้อมกันนี้ท่านหญิงก็ได้รายงานว่าท่านศาสดามูฮัมมัด(ศ็อลฯ)ได้ใช้ภาชนะขนาดเล็กใส่น้ำซัมซัม และใช้พรมไปที่ร่างกายของคนป่วยพร้อมกับให้ดื่ม อะฎอได้ถามไปยังท่านศาสดา(ศ็อลฯ)เกี่ยวกับน้ำซัมซัมที่ได้นำมาจากบ่อน้ำ และเขาก็ได้คำตอบว่า “ท่านศาสดามูฮัมมัด(ศ็อลฯ), อัล-ฮะซัน และอัล-ฮุเซน ก็ได้ดื่มน้ำซัมซัมที่ได้นำมาให้กับพวกเขา” และอัลลอฮฺ(ซ.บ.)ทรงรู้ดีที่สุด (ดู: ฟัตฮฺ อัล-บะอารี, 3/493; อัล-มุคฮฺนี, 3/445; นิฮาอะยัต อัล-มุฮตาอ๊าจ, ชิฟาอฺ อัล-ฆาราม บิ อักบัร อัล-บาลัด อัล-ฮาราม, โดย อัล-อิรากี, 1/258)

อิบนิ อัล-กอยยิม ได้กล่าวว่า :

ตัวของฉันและคนอื่นๆพยายามที่จะเสาะหาวิธีการรักษาด้วยน้ำซัมซัมและก็ได้พบกับสิ่งมหัศจรรย์ ฉันได้แสวงหาการรักษาอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นในหลายครั้งด้วยกับน้ำซัมซัม จนสุดท้ายฉันก็ได้รับการรักษาด้วยกับพระประสงค์ของอัลลอฮฺ(ซ.บ.) ฉันได้พบกับบางคนที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกับน้ำซัมซัมเป็นเวลาหลายวัน, แรมเดือน หรือมากกว่านั้น โดยที่ไม่รู้สึกหิว เขาสามารถที่จะทำการฏอวาฟ(เดินวนรอบกะบะฮฺ)พร้อมกับผู้อื่นได้อย่างปกติ และเขาก็ยังได้บอกอีกว่าเขาไม่ได้บริโภคสิ่งใดนอกจากเพียงน้ำซัมซัมเป็นเวลาถึง 40 วัน และเขาก็มีความแข็งแรงในการเข้าหาภรรยา, ถือศีลอดและทำการฏอวาฟได้หลายครั้ง (ซาอัด อัล-มะอาด, 4/319, 320)

เชคอิบนิ อุซัยมีนได้กล่าวว่า

ดังนั้นจึงควรที่จะตั้งเจตนาขอในสิ่งที่ปรารถนาพร้อมกับดื่มน้ำนี้และควรที่จะดื่มให้อิ่ม นั่นคือ ดื่มเข้าไปสู่กระเพาะจนถึงซี่โครงของเขา เพราะว่า นี้เป็นน้ำที่ดี ซึ่งมีฮะดิษที่ได้อรรถาธิบายเกี่ยวกับสิ่งนี้ว่า มันมีความแตกต่างระหว่าผู้ศรัทธากับผู้กลับกลอกคนหนึ่งที่ได้ดื่มน้ำซัมซัมจนอิ่ม (รายงานโดย อิบนิ มาญะฮฺ)

ได้มีรายงานในซอเฮี้ยะมุสลิม ซึ่งท่านศาสดามูฮัมมัด(ศ็อลฯ) ได้กล่าวว่า

ท่านอบูซัร ได้อาศัยอยู่ใกล้กับกะบะฮฺโดยตลอดเวลาสี่สิบวันสี่สิบคืนท่านไม่ได้ทานหรือดื่มอะไรนอกจากการดื่มน้ำซํมซัม: “ท่านได้พำนักอยู่ที่นี่เป็นเวลานานเท่าไหร่?” ท่านอบูซัรได้กล่าวตอบว่า “ฉันได้พำนักอยู่ที่นี่เป็นเป็นสามสิบวันสามสิบคืนแล้ว” ท่านศาสดามูฮัมมัด(ศ็อลฯ)จึงได้กล่าวต่อไปว่า “ใครเป็นผู้ให้อาหารแก่ท่าน?” ท่านอบูซัรได้กล่าวตอบว่า “ฉันไม่มีสิ่งใดนอกเสียจากน้ำซัมซัม และฉันรู้สึกถึงความสมบูรณ์เนื่องจากมีรอยพับของไขมันที่หน้าท้องของฉัน ฉันไม่รู้สึกถึงความเหนื่อยล้าหรือความอ่อนแอเนื่องจากความหิวและฉันก็ไม่รู้สึกว่าฉันผอมลง” ท่านศาสดามูฮัมมัด(ศ็อลฯ)ได้กล่าวต่อไปอีกว่า “แท้จริง, มันเป็นสิ่งที่จำเริญ และมันเป็นอาหารที่บำรุงร่างกาย” (รายงานโดย มุสลิม, 2473)

www.abnewstoday.com